จ.นครนายก ยินดีต้อนรับนักปั่นทั่วประเทศ แข่งเสือภูเขาทางเรียบ-Bike 4 All สนามท้าย

เชิญชวนเที่ยวเขื่อนขุนด่านฯ มีกิจกรรมเพียบ “นครนายก” พร้อมเต็มร้อยในการเป็นเจ้าภาพจัดศึกจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และ “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” สนามสุดท้าย นักปั่นแห่สมัครกันคึกคัก เพราะได้แข่งขันจักรยาน พร้อมพาครอบครัว…

จ.นครนายก ยินดีต้อนรับนักปั่นทั่วประเทศ แข่งเสือภูเขาทางเรียบ-Bike 4 All สนามท้าย

จ.นครนายก ยินดีต้อนรับนักปั่นทั่วประเทศ แข่งเสือภูเขาทางเรียบ-Bike 4 All สนามท้าย

เชิญชวนเที่ยวเขื่อนขุนด่านฯ มีกิจกรรมเพียบ

 “นครนายก” พร้อมเต็มร้อยในการเป็นเจ้าภาพจัดศึกจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และ “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” สนามสุดท้าย นักปั่นแห่สมัครกันคึกคัก เพราะได้แข่งขันจักรยาน พร้อมพาครอบครัว ท่องเที่ยวภายในเขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งมีกิจกรรมให้ทำเพียบ ผู้ที่สมัครแข่ง “Bike 4 All” ครบ 4 สนาม ได้ลุ้นรางวัลสลากออมสินพิเศษ มูลค่า 100,000 บาท นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย ด้าน “นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ” พ่อเมืองนครนายก สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมปฏิหน้าที่ในวันแข่งขัน 

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ร่วมกับ จังหวัดนครนายก จัดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) ชิงแชมป์ประเทศไทย และการแข่งขันจักรยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สนามที่ 4 สนามสุดท้าย ซึ่งจะแข่งขันระหว่างวันที่ 12-13 ต.ค. ที่เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ล่าสุด ทางจังหวัดได้เตรียมความพร้อมเอาไว้สมบูรณ์ 100% แล้ว เพื่อต้อนรับนักปั่นที่จะไปร่วมแข่งขันในครั้งนี้

พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า การแข่งขันในสนามสุดท้ายนี้มีความคึกคักเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะทราบผลทันทีว่าใครได้เป็นแชมป์ในแต่ละรุ่นแต่ละรายการ โดยผู้ที่มีคะแนนรวมสูงสุดจะได้ครองถ้วยพระราชทาน ประกอบกับเป็นวันหยุดราชการยาวติดต่อกัน 3 วัน (วันที่ 12-14 ต.ค.) ซึ่งเหมาะแก่การพาครอบครัวมาท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจไปในตัว ดังนั้นจึงมีนักปั่นสนใจสมัครเข้าแข่งขันเป็นจำนวนมาก เพราะนอกจากได้ปั่นจักรยานแล้วยัง ไดท่องเที่ยวในจังหวัดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในตัวเขื่อนขุนด่านปราการชล ก็มีกิจกรรมเอาไว้บริการนักท่องเที่ยวหลายอย่าง เช่น นั่งรถรางชมวิวสันเขื่อน การถ่ายรูปบนสันเขื่อน หรือการนั่งเรือเข้าไปในตัวเขื่อน เพื่อชมความงามของ 3 น้ำตก ได้แก่ น้ำตกผางามงอน น้ำตกคลองคราม น้ำตกช่องลม ที่มีความสวยงามและบรรยากาศดีไม่แพ้ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่นักปั่นลงแข่งขันอยู่ สมาชิกภายในครอบครัวหรือผู้ติดตาม ก็สามารถไปท่องเที่ยวในบริเวณเขื่อนได้

 “นอกจากนั้น ผู้ที่สมัครเข้าแข่งขันจักรยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ครบ 4 สนาม จะมีสิทธิลุ้นรางวัลสลากออมสินพิเศษ มูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท ขณะที่สิทธิประโยชน์อื่น ๆ ยังมีเหมือนเดิม ทั้งเงินรางวัล เสื้อที่ระลึก ประกาศนียบัตร การจับสลากรางวัลสร้อยคอทองคำประจำสนาม อาหารเครื่องดื่มก็มีบริการอย่างเต็มที่ เป็นร้านอาหารชื่อดังภายในจังหวัดนครนายก รวมทั้งเหรียญรางวัลที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ขอพระราชทานเชิญพระนามาภิไธยย่อ สธ. ประดับไว้ที่เหรียญ ซึ่งจะเป็นเกียรติประวัติแก่ผู้ชนะเลิศการแข่งขันและแก่วงศ์ตระกูล” พลเอกเดชา กล่าว

 ด้าน นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก กล่าวว่า จ.นครนายก ได้เตรียมการทุกอย่างพร้อม 100% ทุกหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ไปดำเนินการงานต่าง ๆ เช่น การปรับพื้นผิวถนน การวางแผนด้านการจราจร การวางแผนการรักษาความปลอดภัย ก็ดำเนินเรียบร้อยแล้ว ส่วนหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการรักษาพยาบาล รถพยาบาลฉุกเฉิน อาสาสมัคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ท้องถิ่นจังหวัด ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ซึ่งจะมาปฏิบัติหน้าที่ในวันแข่งขัน ก็ได้สั่งการให้เตรียมกำลังพลเอาไว้พร้อมแล้วเช่นกัน ชาวนครนายก มีความยินดีที่จะต้อนรับนักปั่นและนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเยือนจังหวัดของเราทุกคน

สำหรับการแข่งขันเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 12 ต.ค. ซึ่งมีพิธีเปิดการแข่งขันที่บริเวณหน้าเขื่อนขุนด่านปราการชล โดยได้รับเกียรติจาก นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก เป็นประธานในพิธี เริ่มเวลา 08.00 น. ประธานในพิธีจะลงนามถวายพระพร ที่หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วร้องเพลง “สดุดีจอมราชา” ร่วมกัน จากนั้นประธานลงนามถวายพระพร ที่หน้าพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต่อด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี 

ส่วนการปล่อยตัวนักกีฬา เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป โดยรุ่นอายุไม่ 14 ปีหญิง, รุ่นอายุ 12 ปีชาย, รุ่นอายุ 10 ปีชาย ปั่นระยะทาง 23.25 กม. ขณะที่รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปีชาย, รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีชาย, รุ่นทั่วไปชาย, รุ่นอายุ 30-34 ปีชาย, รุ่นอายุ 35-39 ปีชาย, รุ่นอายุ 40-44 ปีชาย, รุ่นอายุ 45-49 ปีชาย, รุ่นอายุ 50-54 ปีชาย, รุ่นอายุ 55-59 ปีชาย, รุ่นอายุ 60 ปีชายขึ้นไป, รุ่นน้ำหนัก 90 กก.ขึ้นไปอายุไม่เกิน 34 ปีชาย, รุ่นน้ำหนัก 90 กก. อายุ 35 ปีขึ้นไปชาย, รุ่นอายุไม่เกิน18 ปีหญิง, รุ่นทั่วไปหญิง, รุ่นอายุ 35 ปีขึ้นไปหญิง ปั่นระยะทาง 48.35 กม.

 วันอาทิตย์ที่ 13 ต.ค. เป็นการแข่งขัน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” โดยมีพิธีเปิดการแข่งขันเช่นเดียวกัน เริ่มเวลา 07.10 น. จากนั้นจะปล่อยตัวนักกีฬาเวลา 08.00 น. เริ่มจากรุ่น AV 40 ต่อด้วย รุ่น AV 35, รุ่น AV30 ปั่นระยะทาง 76.76 กม. ขณะที่รุ่นไม่จำกัด AV ปั่นระยะทาง 48.35 กม. ซึ่งการแข่งขันทุกประเภททุกรุ่น ทั้งเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และ “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” จะปล่อยตัวจากบริเวณหน้าเขื่อนขุนด่านปราการชล ไปตามเส้นทางที่กำหนด แล้วกลับมาเข้าเส้นชัยที่เดิม

 ผู้ที่สนใจสมัครร่วมกิจกรรม ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All สามารถสมัครได้ทางเว็บไซต์ www.ThaiMTB.com อัตราค่าสมัครคนละ 650 บาท แต่ถ้าสมัครหน้างานวันเสาร์ อัตราค่าสมัคร 700 บาท และถ้าสมัครหน้างานวันอาทิตย์ อัตราค่าสมัคร 800 บาท ดังนั้นการสมัครล่วงหน้าจะประหยัดกว่า ส่วนจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ ค่าสมัคร 450 บาท สมัครได้ที่เว็บไซต์ www.thaicycling.or.th สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สมาคมกีฬาจักรยานฯ โทร.0-2719-3340-2.