ทัพนักปั่นไทยสร้างประวัติศาสตร์ กวาดเหรียญรางวัลดาวน์ฮิลเรียบ คว้าอันดับ 1-3 ได้ทั้งชายและหญิง เมธาสิทธิ์-ศิรภัสสร แชมป์เอเชีย

ทัพนักปั่นทีมชาติไทยประกาศศักดาและสร้างประวัติศาสตร์ กวาดเหรียญรางวัลดาวน์ฮิล ในศึกเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชียได้ทั้งชายและหญิง โดย “ซูเปอร์เบส” เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ ผงาดแชมป์เอเชียเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันในรุ่นประชาชนชาย ขณะที่ “ไอซ์” ศิรภัสสร ชาติกำเนิด ได้แชมป์เป็นครั้งแรกในชีวิต เฉือนชนะรุ่นพี่ “เพ็ชร์” วิภาวี ดีคาบาเลส ดีกรีแชมป์เอเชีย 7 สมัยไปอย่างหวุดหวิด “เสธ.หมึก” พอใจผลงาน พร้อมมอบเงินรางวัลพิเศษให้นักกีฬาทุกคนรวม 200,000 บาท

การแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 26 และการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 12 ที่ตำบลท่าข้าวเปลือก อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 2 ก.พ. เป็นการแข่งขันวันที่สอง ที่วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม ในประเภทดาวน์ฮิล รุ่นประชาชนชาย และหญิง รอบชิงชนะเลิศ โดยมี มร.ออการ์ ซิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์จักรยานเอเชีย (เอซีซี) ชาวอินเดีย พร้อมด้วย “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, น.ส.ละออง ติยะไพรัช ส.ส.เชียงราย และ นางวันดี ราชชมภู นายอำเภอแม่จัน มาร่วมให้กำลังใจนักกีฬาถึงขอบสนาม

สำหรับการแข่งขันประเภทดาวน์ฮิล รุ่นประชาชนชาย และหญิง ได้ให้นักกีฬาขี่รอบทดสอบเวลา ไปเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า ในรุ่นประชาชนชาย “เบส” นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ เจ้าของแชมป์เอเชีย ปี 2019 ทำเวลาดีที่สุด 2.07.554 นาที, ที่ 2 “ตั้ง” นายชินพัฒน์ สุขจรรยา เวลา 2.10.500 นาที, ที่ 3 เช็ง ซาน เชียง จากไต้หวัน เวลา 2.11.304 นาที ส่วน “แสน” นายสืบสกุล สุขจรรยา พี่ชายของ “ตั้ง” ทำเวลามาเป็นที่ 4 เวลา 2.12.591 นาที และ “โอ๊ต” นายบุณยวัทน์ ปราโมทย์ เข้าที่ 7 เวลา 2.17.069 นาที ขณะที่รุ่นประชาชนหญิง นักปั่นสาวไทยทำเวลาได้อย่างยอดเยี่ยม “เพ็ชร์” จ่าอากาศโทหญิง วิภาวี ดีคาบาเรส ทำเวลาดีที่สุด 2.29.498 นาที, ที่ 2 นางสาวศิรภัสสร ชาติกำเนิด เวลา 2.31.588 นาที และ ที่ 3 นางสาวธิดา ปัญญาวัน 2.32.649 นาที

ส่วนผลการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ปรากฏว่า “ซูเปอร์เบส” นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ ไม่ทำให้กองเชียร์ผิดหวัง เมื่อทำเวลาได้เร็วที่สุด 2.07.502 นาที ผงาดคว้าแชมป์เอเชียไปครองสำเร็จ และเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ส่วนที่ 2 เป็นของ “ตั้ง” นายชินพัฒน์ สุขจรรยา เวลา 2.09.768 นาที ซึ่งตอนเข้าเส้นชัยมีความผิดพลาดเรื่องเวลาเล็กน้อย เนื่องจากเจ้าหน้าที่จับเวลาจากต่างประเทศ แจ้งเวลาผิดว่า เวลาขี่ของ ชินพัฒน์ เดินไปถึง 3 นาทีเศษ สุดท้ายก็มีการแก้ไขให้ถูกต้อง อันดับที่ 3 ได้แก่ “แสน” นายสืบสกุล สุขจรรยา เวลา 2.11.461 นาที สรุปว่านักปั่นไทยผงาดคว้าอันดับ 1-3 ทั้งหมด ด้าน “โอ๊ต” นายบุณยวัทน์ ปราโมทย์ ได้ที่ 5 เวลา 2.14.963 นาที

       “ซูเปอร์เบส” เมธาสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ไม่มีความกดดันอะไร เพราะรอบทดสอบเวลาก็ทำเวลาได้ดีเช่นกัน ทั้งที่ยังขี่ไม่ถึง 100% พอถึงรอบชิงชนะเลิศก็ตั้งใจขี่อย่างเต็มที่ รู้สึกดีใจที่สามารถคว้าแชมป์เอเชียได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ขอขอบคุณกองเชียร์ชาวไทยทุกคนที่ส่งกำลังใจมาเชียร์พวกเรา ขอบคุณ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ รวมทั้งสตาฟฟ์โค้ช ที่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี ขอบคุณคณะกรรมการจัดการแข่งขัน และพี่น้องชาวเชียงรายทุกคน หลังจากนี้ไปตนยังมีภารกิจที่ต้องรับใช้ชาติอีกหลายรายการ ก็จะตั้งใตฝึกซ้อมและสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยต่อไป

“ตั้ง” ชินพัฒน์ กล่าวว่า ขอบคุณท่านนายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ พลเอกเดชา เหมกระศรี ที่ได้ส่งพวกเรามาฝึกซ้อมอยู่ที่ จ.เชียงราย นานกว่า 1 เดือน นักกีฬาทุกคนต่างตั้งใจฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ ให้เกิดความชำนาญ และต้องขอบคุณกองเชียร์ทั้ง 2 ข้างทาง ที่ส่งเสียงเชียร์ตลอด ทำให้เกิดความคึกคักตั้งแต่ปล่อยตัวลงมาจนถึงหน้าเส้นชัย ส่วนเรื่องที่เวลาตอนเข้าเส้นชัยผิดพลาดก็ไม่ได้ตกใจอะไร เพราะรู้ว่าตัวเองขี่ดี เวลาผิดแน่นอน

       “แสน” สืบสกุล กล่าวว่า ก่อนแข่งขันตนเองฝันว่าอยากจะติดอันดับ 1 ใน 3 แล้วก็เกิดขึ้นจริง ทำให้รู้สึกอิ่มเอมมาก ขอขอบคุณกองเชียร์ชาวไทยทุกคนที่ช่วยเชียร์พวกเรา ขอบคุณ พลเอกเดชา เหมกระศรี ที่ดูแลนักกีฬาอย่างดีมาโยตลอด ไม่มีขาดตกบกพร่อง พวกเราสัญญาว่าจะทำหน้าที่รับใช้ชาติต่อไปอย่างดีที่สุด

ด้านการแข่งขันในรุ่นประชาชนหญิง รอบชิงชนะเลิศ นักปั่นสาวไทยก็สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน ด้วยการกวาดรางวัลอันดับ 1-3 ไปครองได้ทั้งหมด แม้จะมีการพลิกโผเล็กน้อย เมื่อ “ไอซ์” นางสาวศิรภัสสร ชาติกำเนิด ปั่นเข้ามาเป็นอันดับ 1 เวลา 2.28.087 นาที เฉือนชนะ นางสาวธิดา ปัญญาวัน ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 เพียงเสี้ยววินาที ด้วยเวลา 2.28.582 วินาที โดยเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกในชีวิตของ ศิรภัสสร นับตั้งแต่รับใช้ชาติมา ขณะที่ “เพ็ชร์” จ่าอากาศโทหญิง วิภาวี ดีคาบาเรส เจ้าของแชมป์เอเชีย 7 สมัย เข้ามาเป็นอันดับ 3 เวลา 2.29.443 นาที 

หลังการแข่งขัน “ไอซ์” ศิรภัสสร ถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยตื้นตันใจ เนื่องจากเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกในชีวิต ที่ลงแข่งขันในนามทีมชาติไทย ที่ผ่านมาเคยได้เพียงอันดับ 2 หรือ 3 เท่านั้น โดย “ไอซ์” เปิดเผยว่า ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะทำได้ และไม่คาดหวังว่าจะได้ที่ 1 ตอนนี้ทำสำเร็จแล้ว ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยคว้าเหรียญทองมาก่อน ขอขอบคุณกองเชียร์ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยทุกคน และขอบคุณท่านนายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ พลเอกเดชา เหมกระศรี ที่ดูแลนักกีฬาอย่างดีเยี่ยม จนทำให้พวกเรามีวันนี้

“เพ็ชร์” วิภาวี กล่าวว่า วันนี้ทำดีที่สุดแล้ว ยอมรับว่าต้องใช้แรงปั่นเยอะมาก ทำให้เหนื่อยและทำเวลาได้ไม่ดีนัก แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาหรืออุปสรรคอะไร ตนเองทำเต็มที่แล้ว และยินดีกับน้องศิรภัสสรด้วยที่ทำสำเร็จ ขอขอบคุณพี่น้องวชาวไทยทุกคนที่ช่วยเชียร์พวกเรา

ขณะที่ ธิดา ซึ่งติดทีมชาติไทยครั้งแรก ไม่สามารถให้สัมภาษณ์เนื่องจากไม่สบาย มีอาการเจ็บคอและเสียงหาย แต่ก็แสดงออกถึงความรู้สึกดีใจและปลื้มใจที่คว้าเหรียญรางวัลมาครองสำเร็จ

ในพิธีมอบเหรียญรางวัล พลเอกเดชา ได้มอบเงินรางวัลพิเศษให้แก่นักกีฬาที่ได้เหรียญรางวัลทุกคน โดยผู้ที่ชนะเลิศได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท, อันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท, อันดับ 3 ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท รวมเงินรางวัลที่นักกีฬาดาวน์ฮิล ทำไปได้ทั้งสิ้น 200,000 บาท

นางวันดี ราชชมภู นายอำเภอแม่จัน กล่าวว่า ขอขอบคุณสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่ให้เกียรติอำเภอแม่จันร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย ที่ผ่านมา อำเภอแม่จันเป็นเพียงทางผ่าน แต่หลังจากที่ร่วมกับสมาคมกีฬาจักรยานฯ เป็นเจ้าภาพการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย มา 4-5 ปี อำเภอแม่จันก็เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น เรามีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์คือ เวียงหนองหล่ม นอกจากนี้ยังได้รับงบประมาณจาก นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้มาทำ “ไบค์เลน” เชื่อมต่อไปยังวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อีกด้วย

ด้าน พลเอกเดชา กล่าวว่า การแข่งขันในวันนี้นักกีฬาทีมชาติไทยทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม ขอขอบคุณสตาฟฟ์โค้ชที่ฝึกสอนจนนักกีฬาจนเกิดความชำนาญ ขอบคุณผู้ที่ทำสนามแข่งขัน ตลอดจนนักกีฬาที่มีความตั้งใจฝึกซ้อม อยู่ในกฏระเบียบ เชื่อฟังผู้ฝึกสอน สำหรับ เมาธาสิทธิ์ เร็ว ๆ นี้จะส่งให้ไปแข่งขันจักรยานเสือภูเขาเยาวชนชิงแชมป์โลก ส่วนคนอื่น ๆ ได้แก่ ชินพัฒน์, สืบสกุล, วิภาวี รวมทั้ง ธิดา ที่เป็นคลื่นลูกใหม่ และ ศิรภัสสร แชมป์เอเชียคนใหม่ ก็จะได้รับการพัฒนาฝีมือจากผู้ฝึกสอนต่อไป

“ขอขอบคุณพี่น้องชาวจังหวัดเชียงราย ที่ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างความสุขให้แก่คนไทยทั้งประเทศ หลังจากนี้ไปเรายังมีการแข่งขันประเภทครอสคันทรี่ อีกหลายรายการ จึงขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทยทุกคน ส่งกำลังใจเชียร์นักกีฬาไทยให้สร้างผลงานคว้าเหรียญรางวัลเพิ่ม โดยติดตามชมผ่านการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ และยูทูบ ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้ทุกวัน” พลเอกเดชา กล่าวเสริม

สำหรับโปรแกรมในวันจันทร์ที่ 3 ก.พ. เวลา 09.00-11.00 น. เป็นรอบฝึกซ้อมของนักกีฬาครอสคันทรี่, เวลา 13.00-14.30 น. แข่งขัน ครอสคันทรี่ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง และเยาวชนหญิง รอบชิงชนะเลิศ, เวลา 15.00-17.00 น. แข่งขัน ครอสคันทรี่ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย และเยาวชนชาย รอบชิงชนะเลิศ โดยสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส จะถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ และ ยูทูบ เวลา 13.00-14.30 น.