ปั่นในบ้าน ต้านโควิด กระแสแรง ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ มีต่างชาติทั่วโลกร่วมกิจกรรมเพียบ เสธ.หมึก ชี้สองล้อไม่เคยหยุดนิ่ง

“ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” เฟส 2 กระแสแรง ได้รับความนิยมจากนักปั่นทางบ้านเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมชื่นชมสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่จัดกิจกรรมดี ๆ ให้ประชาชนได้เข้าร่วมในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ซึ่งไม่สะดวกในการเดินทางออกไปนอกบ้าน ด้าน “เสธ.หมึก” เผยกิจกรรม…

ปั่นในบ้าน ต้านโควิด กระแสแรง ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ มีต่างชาติทั่วโลกร่วมกิจกรรมเพียบ เสธ.หมึก ชี้สองล้อไม่เคยหยุดนิ่ง

ปั่นในบ้าน ต้านโควิด กระแสแรง ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ มีต่างชาติทั่วโลกร่วมกิจกรรมเพียบ เสธ.หมึก ชี้สองล้อไม่เคยหยุดนิ่ง

“ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” เฟส 2 กระแสแรง ได้รับความนิยมจากนักปั่นทางบ้านเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมชื่นชมสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่จัดกิจกรรมดี ๆ ให้ประชาชนได้เข้าร่วมในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ซึ่งไม่สะดวกในการเดินทางออกไปนอกบ้าน ด้าน “เสธ.หมึก” เผยกิจกรรม “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” มีผู้ชมจากทั่วโลกทั้ง จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย บราซิล อินโดนีเซีย และมีนักจักรยานชาวญี่ปุ่นมาร่วมปั่นด้วย ชี้เป็นการออกกำลังกายที่ปลอดภัยที่สุด พร้อมยืนยันสมาคมกีฬาจักรยานฯ ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดโครงการปั่นจักรยานออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน “ปั่นในบ้านต้านโควิด” เฟส 2 ซึ่งได้จัดขึ้นเป็นนัดที่ 3 เมื่อวันเสาร์ที่ 16 มกราคม ที่สตูดิโอถ่ายทอดสดของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ผ่านแอปพลิเคชัน One Lap ระยะทาง 13 กม. แต่เส้นทางค่อนข้างยาก เพราะต้องปั่นขึ้นเขาเป็นส่วนใหญ่ โดยมี “น้องรี่” นัฐฐินันทร์ ผาบสิมมา นักปั่นสาวชื่อดังในโลกโซเชี่ยล มาเป็นแขกรับเชิญ ปั่นร่วมกับนักปั่นทีมชาติไทย และแฟนจักรยานทางบ้านทั่วประเทศ


พลเอกเดชา กล่าวว่า หลังจากที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้จัดกิจกรรม “ปั่นในบ้านต้านโควิด” เฟส 2 ในรูปแบบการฝึกซ้อม หรือ “มีตติ้ง” เพื่อให้ประชาชนทางบ้านได้ออกกำลังกาย ในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยกำหนดจัดทุกวันเสาร์ ซึ่งกิจกรรมนัดแรกเมื่อวันเสาร์ที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา มีนักปั่นจากทางบ้านร่วมกิจกรรมประมาณ 90 คน แต่ในครั้งนี้มีแฟน ๆ นักปั่นทางบ้านร่วมกิจกรรมเกือบ 200 คน นอกจากนี้ก็มีผู้ชมจากทั่วโลก เช่น จีน, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, บราซิล, อินโดนีเซีย ฯลฯ ร่วมชมการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก Thaicycling Association และมีนักจักรยานชาวญี่ปุ่นมาร่วมปั่นในทริปนี้ด้วย แสดงให้เห็นว่ากิจกรรม “ปั่นในบ้านต้านโควิด” เฟส 2 ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ถือว่าน่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมีผู้ชมทางบ้านได้แสดงความคิดเห็นในระหว่างการไลฟ์สด ว่าขอชื่นชมสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่ได้จัดกิจกรรมดี ๆ เช่นนี้ให้กับประชาชนได้เข้าร่วม ซึ่งไม่สะดวกในการเดินทางออกไปนอกบ้าน

“ในสถานการณ์เช่นนี้ การที่จะไปออกกำลังกายนอกบ้านก็มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้นการปั่นจักรยานในบ้านผ่านแอปพลิชันต่าง ๆ ที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดขึ้น จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยมากที่สุด โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงหรือเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การเดินทางไปไหนก็ลำบาก จะเห็นได้ว่าสมาคมกีฬาจักรยานฯ ไม่เคยหยุดนิ่ง เรามีการพัฒนาตลอดเวลา ไม่เพียงแต่พัฒนานักกีฬาและบุคลากรเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้ร่วมกิจกรรมเพื่อสร้างเสริมสุขภาพพลานามัยให้แข็งแรง เป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ส่วนกิจกรรมในทุกวันพฤหัสบดีจะเป็นการแข่งขันในแอปพลิเคชั่น Zwift ที่ฝ่ายเทคนิคฯ จะเป็นผู้กำหนดเส้นทางให้นักปั่นทีมชาติลงแข่งขันตามโปรแกรมการฝึกซ้อมต่อไป” พลเอกเดชา กล่าว


ด้าน “โค้ชตั้ม” พันจ่าอากาศเอก วิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอนจักรยานถนนทีมชาติไทย กล่าวว่า กำหนดการ “ปั่นในบ้านต้านโควิด” เฟส 2 ครั้งต่อไปในวันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม จะให้นักปั่นทีมชาติไทย รวมไปถึงทีมอาชีพทั้งชายและหญิง ลงแข่งขันในแอปพลิเคชั่น Zwift ส่วนจะเป็นเส้นทางไหน ยังไม่สามารถกำหนดได้ เนื่องจากทาง Zwift ยังไม่เปิดสนามของสัปดาห์หน้า จะทราบแน่ชัดก็ราววันที่ 18-19 มกราคม ส่วนนักปั่นทางบ้านก็สามารถลงทะเบียนร่วมแข่งขันได้เช่นกัน ถือว่าเป็นการประลองฝีมือกับนักปั่นต่างชาติทั่วโลก

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจร่วมกิจกรรม “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” เฟส 2 สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th และที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Thaicycling Association หรือมีข้อสงสัยประการใดสามารถส่งคำถามมาที่ Inbox หรือ “กล่องข้อความ” ในเฟซบุ๊ก.