สองล้อมุ่งมั่นพัฒนาวงการจักรยานไทย ตามวัตถุประสงค์ของยูซีไอทุกประการ ส่งเสริมนักปั่นสตรี-จัดแข่งขันยุติธรรม

  “เสธ.หมึก” เผยสมาคมกีฬาจักรยานฯ เดินหน้าพัฒนายกระดับวงการกีฬาจักรยานไทย ตรงตามวัตถุประสงค์ของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ที่มีการหารือกันในระหว่างการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2023 หรือ “ยูซีไอ คองเกรส 2023” ที่กรุงกลาสโกว์…

สองล้อมุ่งมั่นพัฒนาวงการจักรยานไทย ตามวัตถุประสงค์ของยูซีไอทุกประการ ส่งเสริมนักปั่นสตรี-จัดแข่งขันยุติธรรม

สองล้อมุ่งมั่นพัฒนาวงการจักรยานไทย ตามวัตถุประสงค์ของยูซีไอทุกประการ ส่งเสริมนักปั่นสตรี-จัดแข่งขันยุติธรรม

  “เสธ.หมึก” เผยสมาคมกีฬาจักรยานฯ เดินหน้าพัฒนายกระดับวงการกีฬาจักรยานไทย ตรงตามวัตถุประสงค์ของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ที่มีการหารือกันในระหว่างการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2023 หรือ “ยูซีไอ คองเกรส 2023” ที่กรุงกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ทั้งส่งเสริมการแข่งขันจักรยานสตรีระดับนานาชาติ การจัดการแข่งขันด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่มีการกีดกันทางเพศ อายุ รสนิยมทางเพศ สังคม และศาสนา จนกระทั่งได้คำชื่นชมจากทุกฝ่าย รวมไปถึงความร่วมมือในการส่งนักกีฬาไปฝึกซ้อมที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (ดับเบิลยูซี) และศูนย์ฝึกจักรยานในภูมิภาคเอเชีย 
W02
 “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่ตนเองได้เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 192 ประจำปี 2023 ของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) หรือ “ยูซีไอ คองเกรส 2023” ณ กรุงกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมี มร.เดวิด ลาปาเตียนท์ ประธานยูซีไอ เป็นประธานในที่ประชุม และมีมวลสมาชิกสหพันธ์จักรยานจากทั่วโลกรวม 151 ชาติเข้าร่วมประชุม โดยมีวาระสำคัญที่น่าสนใจถูกนำเสนอต่อที่ประชุมหลายประเด็น
W03
 พลเอกเดชา กล่าวว่า ประเด็นแรก ยูซีไอมีวัตถุประสงค์สนับสนุนการแข่งขันจักรยานสตรีอย่างมืออาชีพ โดยการแข่งขันจักรยานสตรีได้รับสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2016 (พ.ศ.2559) และกำลังจะนำไปสู่การพัฒนาในขั้นตอนต่อไป สำหรับแนวทางใหม่จะประกอบด้วยการตั้งเงินเดือนขั้นต่ำให้แก่นักกีฬาจักรยานสตรี การก่อตั้งทีมจักรยานสตรีโลก การอนุญาตให้ลาคลอด ความเท่าเทียมกันสำหรับนักกีฬาชายและสตรีในการแข่งขันระดับนานาชาติ ซึ่งจะเริ่มต้นในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นต้นไป ในประเด็นนี้สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้พัฒนาการแข่งขันจักรยานสตรันานาชาติมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน โดยเฉพาะการแข่งขันจักรยานทางไกลสตรีนานาชาติ “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” ซึ่งจัดการแข่งขันเป็นประจำทุกปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 เป็นต้นมา
W04
 “จากการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้พัฒนาการแข่งขันจักรยานสตรีนาชาติมาเป็นเวลากว่า 20 ปี ได้สร้างนักกีฬาหญิงทีมชาติไทยขึ้นมามากมาย อาทิ บานนา คำฟู เจ้าของเหรียญทองกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ, พ.อ.อ.หญิง เฉลิม ชมภูศรี ซึ่งมีผลงานทั้งกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ และซีเกมส์, พ.ต.หญิง จันทร์เพ็ง นนทะสิน จนกระทั่งมาถึงยุค “บีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ นักปั่นทีมชาติไทยชุดปัจจุบัน ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ จะยังคงเดินหน้าพัฒนานักกีฬาสตรีอย่างต่อเนื่องต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติต่อไป” พลเอกเดชา กล่าว
นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า ประเด็นที่สอง ยูซีไอมุ่งมั่นให้การแข่งขันจักรยานทุกรายการเป็นการแข่งขันที่บริสุทธิ์ยุติธรรม โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มั่นใจว่าการแข่งขันจักรยานยังคงเป็นกีฬาที่สะอาด ซื่อสัตย์ ปลอดภัย และยุติธรรม สำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ต้องปราศจากการรบกวนทุกรูปแบบและการล่วงละเมิดอื่น ๆ โดยไม่คำนึงถึงความสามารถของแต่ละคน เพศ อายุ รสนิยมทางเพศ สังคม และศาสนา ในประเด็นนี้สมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดการแข่งขันจักรยานทั้งในระดับนานาชาติ และระดับชิงแชมป์ประเทศด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมทุกประการ ไม่เคยกีดกันทางเพศ สังคม และศาสนาแต่อย่างใด โดยเฉพาะการแข่งขันในระดับนานาชาติซึ่งได้รับการชื่นชมจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะการประมินผลจากผู้แทนของยูซีไอว่าจัดการแข่งขันได้อย่างยอดเยี่ยม และมีมาตรฐานสูงตามที่ยูซีไอกำหนดทุกประการ
 พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า ประเด็นที่สาม ยูซีไอ มีการเพิ่มกองทุนพัฒนาช่วยเหลือ (Solidarity Fund) ไปทั่วทุกศูนย์ฝึกจักรยานที่เปิดทำการทั่วทุกทวีป ทั้งทวีปเอเชีย อเมริกา แอฟริกา และยุโรป นอกเหนือจากศูนย์ฝึกจักรยานโลก (ดับเบิลยูซีซี) ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีความเป็นไปได้ที่จะอนุมัติให้แต่ละศูนย์ฯ ของแต่ละทวีปสามารถรับจำนวนนักกีฬาในแต่ละประเภทมากขึ้นในอนาคต ในปัจจุบันสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ส่งนักกีฬาไปฝึกซ้อมยังศูนย์ฝึกจักรยานโลก จำนวน 3 คน คนแรกได้แก่ “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักกีฬาจักรยานประเภทลู่ ที่มีลุ้นจะผ่านการควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส ในประเภทคีรินและสปรินท์ คนที่สอง “เจ้าเอ้” ส.ต.โกเมธ สุขประเสริฐ นักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์ ที่เพิ่งคว้าแชมป์เอเชียเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมทั้งคว้าสิทธิ์ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส อย่างเป็นทางการคนแรกของประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีนักกีฬาหญิงอีก 1 คน ได้แก่ “นันท์” น.ส.ยลธนันท์ พลกล้า ในประเภทเสือภูเขา ที่ไปเก็บตัวฝึกซ้อมและตระเวนแข่งขันในประเทศต่าง ๆ ของยุโรป
“เสธ.หมึก” กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันสมาคมกีฬาจักรยานฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับศูนย์ฝึกจักรยานโลกแห่งภูมิภาคเอเชีย ในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งนักกีฬาจักรยานและบุคลากรทั้งผู้ฝึกสอนและช่างจากประเทศไทยจำนวนมาก ได้รับโอกาสคัดเลือกเข้าอบรมในหลักสูตรเฉพาะทางอย่างสม่ำเสมอ โดยในปี 2566 มีนักปั่นและผู้ฝึกสอนในประเภทลู่และถนนเข้ารับการอบรมหลักสูตรประจำปีของศูนย์ฝึกฯ สำหรับหลักสูตรประเภทลู่ สมาคมฯ ได้ส่งนักกีฬา นายเควิน อเล็กซานเดอร์ เบาค์ กับ นายวันชนะ ธรรมปัญญา และผู้ฝึกสอน นายสุริยา วงศ์พันธุ์ เข้าอบรมตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม และจะสิ้นสุดหลักสูตรในวันที่ 21 สิงหาคม ส่วนหลักสูตรประเภทถนน จะส่งนักกีฬา น.ส.พิทยาพร แซ่ตั๋น และผู้ฝึกสอนคือ ร.ต.อ. ประจักษ์ มหาวงศ์ เข้ารับการอบรมระหว่างวันที่ 7 สิงหาคม - 6 กันยายนนี้
พลเอกเดชา กล่าวเสริมอีกว่า จากประเด็นสำคัญ ๆ ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2023 ของสหพันธ์จักรยานโลก (ยูซีไอ) สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้มีการดำเนินหรือพัฒนามาก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อเป็นการยกระดับของวงการกีฬาจักรยานไทยตามวัตถุประสงค์ของยูซีไอทุกประการ จะเห็นได้ว่าสมาคมกีฬาจักรยานฯ ไม่เคยหยุดนิ่ง พวกเราทำงานกันอย่างหนักและต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดพัก แม้แต่เทศกาลวันสำคัญต่าง ๆ ก็แทบไม่ได้หยุด เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังคำขวัญของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่ว่า “มุ่งมั่นพัฒนา สู่ความเป็นเลิศ และต่อยอดไปสู่กีฬาอาชีพ เราจะก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย”.