“พิจิตร” จัดสองล้อชิงแชมป์ ปทท.-นานาชาติ เร่งพัฒนาบึงสีไฟให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ และเป็นศูนย์กลางของการแข่งขันกีฬาจักรยาน

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้คลอดโปรแกรมการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ และจักรยานประเภทถนน ไทยแลนด์ โอเพ่น ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2567 รวมทั้งสิ้น 4 สนาม โดยจะประเดิมสนามแรก ที่จังหวัดพิจิตร ระหว่างวันที่ 2-3 ธันวาคม 2566 ใช้เส้นทางรอบบึงสีไฟ ระยะทางรอบละ 10.28 กิโลเมตร ซึ่งมีการปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดพิจิตร

พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับเส้นทางการปั่นจักรยานรอบบึงสีไฟแห่งนี้จะเป็นสถานที่รองรับนักปั่นจากทั่วประเทศ มีการจัดการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยและจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ ภายใต้การสนับสนุนของ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง, อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิจิตร 4 สมัย ในฐานะประธานที่ปรึกษาสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งต้องการพัฒนาให้บึงสีไฟเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ และเป็นศูนย์กลางของการแข่งขันกีฬาจักรยานระดับนานาชาติ นอกจากจะมีเส้นทางปั่นจักรยานรอบละ 10.28 กิโลเมตรแล้ว ในอนาคตทางจังหวัดพิจิตร และองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตรก็เตรียมดำเนินการสร้างสนามบีเอ็มเอ็กซ์ที่ได้มาตรฐานของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) และสนามขาไถสำหรับเด็กเล็กที่เริ่มฝึกฝนทักษะการขี่จักรยานอีกด้วย

นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันภูมิทัศน์โดยรอบของบึงสีไฟก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีความสวยงาม เพื่อให้ประชาชนทั่วไปมาพักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ มีอุทยานบัวหลายร้อยชนิด มีหอชมนก และสวนหย่อม ดังนั้นสมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงได้ร่วมกับจังหวัดพิจิตร และองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร ประเดิมจัดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ และจักรยานประเภทถนน ไทยแลนด์ โอเพ่น ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ สนามที่ 1 ระหว่างวันที่ 2-3 ธันวาคม 2566 ซึ่งเป็นจัดการแข่งขันในช่วงเดือนมหามงคล โดยวันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อีกทั้งสำนักนายกรัฐมนตรีได้กำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสำคัญของประเทศไทย คือเป็นวันชาติ และเป็นวันพ่อแห่งชาติ ตั้งแต่ พ.ศ.2560 เป็นต้นมา

“นอกจากนี้สมาคมกีฬาจักรยานฯ ยังได้ร่วมกับจังหวัดพิจิตร จัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนนานาชาติ รายการ บึงสีไฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โรดเรซ 2023 ระหว่างวันที่ 25-26 มิถุนายน 2567 โดยใช้เส้นทางรอบบึงสีไฟ เป็นเส้นทางการแข่งขัน ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ จะลงทะเบียนกับสหพันธ์จักรยานานาชาติ (ยูซีไอ) ให้เป็นการแข่งขันระดับ 2.2 จะมีการเชิญทีมจากต่างประเทศมาแข่งขันทั้งประเภททีมชายและทีมหญิง ร่วมกับทีมสโมสรอาชีพของไทย เพื่อยกระดับบึงสีไฟให้เป็นสนามแข่งขันจักรยานระดับนานาชาติอย่างเต็มตัว อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดพิจิตรให้คึกคัก ผ่านการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ และ YouTube ที่จะเผยแพร่ออกไปทั่วโลก” พลเอกเดชา กล่าว

“เสธ.หมึก” กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันจักรยานประเภทถนนนานาชาติ “บึงสีไฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โรดเรซ 2023” สมาคมกีฬาจักรยานฯ ก็จะดำเนินการจัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนน ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” และการแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขา ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2567 สนามที่ 5 สนามสุดท้าย ที่จังหวัดพิจิตร ระหว่างวันที่ 28-30 มิถุนายน ต่อเนื่องกันไป ถือว่าเป็นช่วงเวลาของการจัดมหกรรมกีฬาจักรยานที่จังหวัดพิจิตร มีทั้งการแข่งขันระดับนานาชาติและระดับประเทศ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมด้านกีฬาและการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดพิจิตรให้ดีขึ้น โรงแรมที่พักจะเต็มหมดทุกแห่ง ร้านค้า ร้านอาหาร และชุมชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากบรรดานักกีฬาและผู้ติดตาม เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน รวมไปถึงนักกีฬาต่างชาติที่จะเดินทางไปยังจังหวัดพิจิตร รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 คน

พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ทั้งประเภทถนน, ลู่, เสือภูเขา และบีเอ็มเอ็กซ์ ตลอดทั้งปีรวม 28 สนาม ไม่รวมกับการแข่งขันระดับนานาชาติอีกหลายรายการ ได้แก่ การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” และ การแข่งขันจักรยานประเภทลู่ “แทร็ค เอเชีย คัพ” ซึ่งจัดการแข่งขันต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี นอกจากนั้นในปี 2567 สมาคมฯ ก็จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ระหว่างวันที่ 29-31 พฤษภาคม 2567 ที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์ ภายในสวนกีฬากมล (เอฟบีที) เขตหนองจอก กทม. ซึ่งเป็นการเก็บคะแนนสะสมโอลิมปิกเกมส์ 2024 รายการสุดท้ายก่อนมีการตัดโควตา รวมไปถึงการแข่งขันจักรยานประเภทถนนรายการ “บึงสีไฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โรดเรซ 2023” ที่จังหวัดพิจิตร

“การที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดการแข่งขันจักรยานรายการต่าง ๆ รวมกว่า 30 รายการ ก็เพื่อสร้างนักปั่นรุ่นใหม่ ๆ ขึ้นมาประดับวงการ หลายคนมีการพัฒนาฝีมือจนก้าวไปสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย ไปแข่งขันระดับนานาชาติสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติมากมาย ขณะที่นักกีฬาในระดับประชาชนกลุ่มหนึ่งก็ไปแข่งขันระดับอาชีพ ซึ่งเร็ว ๆ นี้เราจะมีทีมอาชีพเพิ่มขึ้นอีก 1 ทีม รวมไปถึงนักปั่นระดับอาวุโส หากผลงานดีก็มีโอกาสติดทีมชาติและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยได้เช่นกัน เช่น นายธรรมรัตน์ ถวิล และ นายกฤษณะ แก้วจันทร์ เจ้าของเหรียญทองจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 รุ่นมาสเตอร์ ที่จังหวัดระยอง จะเห็นได้สมาคมกีฬาจักรยานฯ ทำงานต่อเนื่องและไม่เคยหยุดนิ่ง ดังเจตนารมณ์ในการบริหารงานที่ว่า มุ่งมั่นพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ และต่อยอดไปสู่กีฬาอาชีพ เราจะก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย” พลเอกเดชา กล่าวเสริม

นอกจากนี้ พลเอกเดชา เปิดเผยอีกว่า ได้รับรายงานจาก “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท ผู้ฝึกสอนจักรยานประเภทถนนทีมชาติไทย ถึงการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ รายการ “ทัวร์ ออฟ ไท่หู่ เลค” ที่ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 14-17 กันยายน ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับโปรซีรี่ย์ มีคะแนนสะสมคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส สูงมาก โดยการแข่งขันสเตจที่ 1 เมื่อวันที่ 14 กันยายน ระยะทาง 88.8 กิโลเมตร ปรากฏว่า นักปั่นทีมชาติไทยที่ทำผลงานดีที่สุดคือ ส.อ.สราวุฒิ สิริรณชัย ได้อันดับ 8 เวลา 1.46.24 ชั่วโมง ส่งผลให้ประเทศไทยได้คะแนนสะสมเพิ่มอีก 4 คะแนน หากนักปั่นไทยทำผลงานได้ดีต่อเนื่องก็น่าจะเก็บคะแนนได้มากพอสมควร ทำให้โอกาสคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ค่อนข้างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่วนแชมป์ประจำสเตจได้แก่ เอนริโก ซานอนเซลโล นักปั่นอิตาลีจากทีมกรีน โปรเจ็ค เวลา 1.46.24 ชั่วโมงเท่ากัน เนื่องจากเข้าเส้นชัยมาเป็นกลุ่มใหญ่ โดยเอนริโก รั้งผู้นำเวลารวมได้ เสื้อเหลืองไปครอง.