ศึกสองล้อประเภทลู่ กระแสความนิยมแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ยอดผู้ชมการถ่ายทอดสดทาง “ไทยพีบีเอส” นับล้านคน มีเรตติ้งผู้ชมหน้าจอพร้อมกัน 63,000 คนต่อนาที และผู้ชมผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association และ Thai PBS ทั้งชมสดและย้อนหลังอีกว่า 70,000 วิว ส่วนสนามที่ 4 วันที่ 4-6 มิ.ย. “ไทยพีบีเอส” เดินหน้าถ่ายทอดสดให้ชมอีกเช่นเดิม
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้จัดการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “ควีนส์สิริกิติ์” ประจำปี 2564 ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal (ไม่มีผู้ชม) สนามที่ 3 ที่เวลโลโดรม หัวหมาก เมื่อวันที่ 28-30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ตามคู่มือของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ที่ผ่านการเห็นชอบจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. อย่างเคร่งครัด พร้อมกับมาตรการพิเศษของสมาคมฯ ที่มีความเข้มข้นมากกว่าเดิม ปรากฏว่าประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจในทุก ๆ ด้าน
พลเอกเดชา กล่าวว่า ในด้านมาตรการป้องกันการพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 สมาคมฯ กำหนดให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกคนตรวจหาเชื้อโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางมาแข่งขัน และแนบผลกาตรวจที่เป็น “ลบ” แนบมากับใบสมัคร รวมทั้งมาตรการอื่น ๆ ภายในสนามแข่งขัน เช่น การกำหนดสัดส่วนเจ้าหน้าที่กับนักกีฬา, การเว้นระยะห่าง, การฝึกซ้อมในพื้นที่ส่วนกลาง, การไม่จับกลุ่มรับประทานอาหารร่วมกัน สมาคมฯ ได้รับความร่วมมือจากทุกสโมสรเป็นอย่างดีมาก ไม่มีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นเลย ต้องขอขอบคุณทุกสโมสรที่ปฏิบัติตามมาตรการของสมาคมฯ ซึ่งเราต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ เพราะสมาคมกีฬาจักรยานฯ ยึดนโยบายว่า “เราจะไม่ไปแพร่เชื้อให้ใคร และจะไม่ให้ใครมาแพร่เชื้อสู่เรา”
นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ กล่าวต่อไปว่า มาตรการสำคัญอีกประการหนึ่ง คือสมาคมฯ ไม่อนุญาตให้มีผู้ชมในสนามแข่งขัน แต่จะให้รับชมผ่านการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไฟล์ Thaicycling Association และเฟซบุ๊กไลฟ์ Thai PBS รวมทั้งการถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (ช่องหลักหมายเลข 3) เท่านั้น ซึ่งในสนามที่ 3 ที่ผ่านมา มียอดวิวรวมกัน 3 วัน เกือบ 70,000 วิว เพราะมีการมาชมย้อนหลังด้วย ไม่รวมกับชมผ่านช่องหลักอีกนับล้านคน โดยมีสถิติจากไทยพีบีเอสแจ้งมาว่า เรตติ้งผู้ชมหน้าจอพร้อมกัน 63,000 คนต่อนาที แสดงให้เห็นถึงกระแสความนิยมในกีฬาจักรยานที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้การที่ประชาชนรับข่าวสารโควิด-19 มาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้เกิดความเครียด เมื่อมีการแข่งขันจักรยานที่สนุกสนาน ตื่นเต้น และเร้าใจ ทำให้ประชาชนหันมาชมการถ่ายทอดสดเป็นจำนวนมากดังที่ปรากฏ
พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า ล่าสุด ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้แจ้งมาว่าจะขอดำเนินการถ่ายทอดสดการแข่งขันในสนามที่ 4 ซึ่งจะแข่งขันระหว่างวันที่ 4-6 มิถุนายน โดยไทยพีบีเอสจะถ่ายทอดสดวันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน ในรายการ “ปั่นสู่ฝันคนวัยมันส์” เวลา 14.00-16.00 น. และการถ่ายทอดสดในครั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้นำอุปกรณ์ชุดใหญ่มาอย่างครบครัน เช่น กล้อง Hi-Motion ราคาตัวละ 8 ล้านบาท ซึ่งมีความคมชัด และมีความละเอียดสูงมาก ขนาดที่ซูมเข้าไปแล้วเห็นแม้กระทั่งเม็ดเหงื่อของนักกีฬา มาติดตั้งทุกมุมภายในสนาม รวมมูลค่ากล้องที่นำมาถ่ายทอดสดราคาหลายสิบล้านบาท อีกทั้งยังมีโดรนสำหรับบินถ่ายภาพมุมสูงด้วย ส่วนการแข่งขันในวันอื่น ๆ และช่วงเช้าของวันอาทิตย์ จะถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไฟล์ Thaicycling Association ตลอดการแข่งขัน
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันสนามที่ 4 มีดังนี้ วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน เวลา 07.00 น. ประชุมผู้จัดการทีมที่ห้องประชุมเสรี ไตรรัตน์, เริ่มแข่งขันเวลา 08.00 น. แข่งขันรอบคัดเลือก ทีมสปรินต์, เปอร์ซูต บุคคล, ทีมเปอร์ซูต, สแครตช์ และคีริน, วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน เริ่มเวลา 08.00 น. แข่งขันไทม์ไทรอัล รอบชิงชนะเลิศ ทุกรุ่น และทีมสปรินต์ รอบชิงชนะเลิศ, แข่งขันสปรินต์ 200 เมตรไทม์ไทรอัล รอบคัดเลือก, สปรินต์ บุคคล รอบคัดเลือก และรอบรองชนะเลิศ, วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน เริ่มเวลา 08.00 น. แข่งขันรอบชิงชนะเลิศทุกรายการ ได้แก่ เปอร์ซูต บุคคล, สปรินต์ บุคคล, ทีมสปรินต์, สแครตช์, คีริน
ส่วนโปรแกรมถ่ายทอดสดในสนามที่ 4 ดังนี้ วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน ถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไฟล์ Thaicycling Association เวลา 08.00-12.00 น. และ 13.00-15.00 น., วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน ถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไฟล์ Thaicycling Association เวลา 08.00-12.00 น. และ 13.00-16.00 น., วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน ถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไฟล์ Thaicycling Association เวลา 08.00-12.00 น. และถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เวลา 14.00-16.00 น.
ภาษาไทย
