“สองล้อ” เดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ร่วมมือ บ.มานาแม็ค-มูลนิธิฟีนิกซ์ ยกระดับและพัฒนา “จักรยานไทย”

 สมาคมกีฬาจักรยานฯ เดินหน้าพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง โดยร่วมมือกับ บริษัท มานาแม็ค และมูลนิธิฟีนิกซ์ จากการประสานของ “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี ในการยกระดับการแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” พร้อมยื่นขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์…

“สองล้อ” เดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ร่วมมือ บ.มานาแม็ค-มูลนิธิฟีนิกซ์ ยกระดับและพัฒนา “จักรยานไทย”

“สองล้อ” เดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ร่วมมือ บ.มานาแม็ค-มูลนิธิฟีนิกซ์ ยกระดับและพัฒนา “จักรยานไทย”

 สมาคมกีฬาจักรยานฯ เดินหน้าพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง โดยร่วมมือกับ บริษัท มานาแม็ค และมูลนิธิฟีนิกซ์ จากการประสานของ “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี ในการยกระดับการแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” พร้อมยื่นขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ เวิลด์ คัพ ซูเปอร์ครอส และบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์โลก อีกทั้งวางแผนพัฒนาศักยภาพทีมนักปั่นอาชีพทั้งทีมชาย-ทีมหญิง และผลักดันให้ “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักปั่นประเภทลู่ให้ก้าวไปจนถึงการคว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์
 “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตนเองพร้อมด้วยฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้เข้าพบ มร.คริส แม็คคอร์แม็ค อดีตแชมป์โลกไตรกีฬา 4 สมัย ชาวออสเตรเลีย ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท มานาแม็ค และผู้บริหารมูลนิธิฟีนิกซ์ พร้อมทั้ง มร.วอย เช็ก ชาวโปแลนด์ บอร์ดบริหารมูลนิธิฟีนิกซ์ เพื่อหารือถึงแนวทางความร่วมมือระหว่างกันในการยกระดับและพัฒนากีฬาจักรยานไทย โดยความช่วยเหลือและประสานงานของ “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสโมสรฟุตบอลนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอรีน พระราม 9
A1
พลเอกเดชา กล่าวว่า จากการหารือเบื้องต้น ทางสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้แจ้ง มร.คริส แม็คคอร์แม็ค ถึงเป้าหมายในการพัฒนาและยกระดับกีฬาจักรยานไทยในหลายประเด็น โดยมีประเด็นหลักคือ 1.การยกระดับจักรยานทางไกล “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” ให้ทัดเทียมกับ “เลอ ทัวร์ เดอ ลังกาวี” ของประเทศมาเลเซีย 2.แผนการยื่นขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์เวิลด์ คัพ ซูเปอร์ครอส และจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์โลก 3.การยกระดับทีมอาชีพ ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม และไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคิง ทีม และ 4.การส่งเสริมนักปั่นไทยที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะ “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักปั่นทีมชาติประเภทลู่ให้ก้าวไปจนถึงการคว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเป้าหมายใหญ่ที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายและการสนับสนุนที่ต่อเนื่อง
“จากการหารือในเบื้องต้น มร.คริส แม็คคอร์แม็ค แสดงความชื่นชมการทำงานของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่สามารถยกระดับความนิยมในกีฬาจักรยานของไทยขึ้นผิดหูผิดตา และเขาก็เห็นด้วยว่านักกีฬาจักรยานของไทยเรายังคงมีศักยภาพในการพัฒนาและยกระดับขึ้นไปอีกได้ แต่ก็ต้องมีการสนับสนุนที่แข็งแกร่ง ทั้งจากภาครัฐและเอกชน เนื่องจากเป็นภารกิจที่ต้องใช้ทั้งบุคลากรและงบประมาณในการขับเคลื่อนให้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ ก็ต้องขอบคุณ นายวรวีร์ มะกูดี ที่เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาวงการกีฬาจักรยาน อีกทั้งยังเห็นว่าสมาคมกีฬาจักรยานฯ ในยุคปัจจุบันนี้มีการทำงานที่เข้มแข็ง ต่อเนื่อง และไม่มีการหยุดยั้ง จึงประสานงานให้การเจรจาหารือกันในครั้งนี้เกิดขึ้น” พลเอกเดชา กล่าว
พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า มร.คริส แม็คคอร์แม็ค ให้ความเห็นว่าในเบื้องต้นบริษัท มานาแม็ค และมูลนิธิฟีนิกซ์ สนใจในโครงการสนับสนุน จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ซึ่งปัจจุบันฝึกซ้อมระยะยาวอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์  และตระเวนแข่งขันเก็บคะแนนเพื่อเป้าหมายควอลิฟายเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส เนื่องจากตรงกับวัตถุประสงค์หลักของมูลนิธิฟีนิกซ์ ซึ่งทางสมาคมฯ ได้จัดทำข้อมูลผลงานของ จาย ในรอบเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ส่งไปให้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการสนับสนุนแล้ว ส่วนโครงการใหญ่อื่น ๆ ทั้งการยกระดับจักรยานทางไกลทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์, การเป็นเจ้าภาพจัดจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ซูเปอร์ครอส และชิงแชมป์โลก ตลอดจนยกระดับทีมอาชีพถนนไทยนั้น จะร่วมกันพิจารณาแนวทางกันต่อไปในอนาคต
นายกสองล้อไทย เจ้าของฉายา “หมึกต้นแบบ” เปิดเผยอีกว่า ส่วนความคืบหน้าของการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์โลก รายการ “ยูซีไอ บีเอ็มเอ็กซ์ เรซซิ่ง เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์” ที่เมืองน็องต์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในประเภทแชมเปี้ยนชิพของทีมชาติไทยชุดใหญ่ ปรากฏว่า “เอ้” สิบตรี โกเมธ สุขประเสริฐ ที่ลงแข่งขันในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย ทำผลงานได้ดีที่สุด โดย โกเมธ ลงแข่งขันรอบแรกในฮีตที่ 2 และปั่นเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม ด้วยเวลา 30.457 วินาที เข้ารอบสอง หรือรอบ 48 คนสุดท้าย ซึ่ง โกเมธ ถูกจัดอยู่ในฮีตที่ 3 ผลปรากฏว่าในช่วงออกตัวลงจากแรมป์ โกเมธ ถูกนักปั่นเยอรมนีที่เสียหลักเซมาปัดล้อหลังทำให้เสียการทรงตัวล้มที่เนินแรกทั้งคู่ พลาดโอกาสการเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปอย่างน่าเสียดาย 
ด้านผลการแข่งขันของนักปั่นไทยรายอื่น ๆ “เบส” นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ และ “ฮีม” พลฯ สมคิด ฮาระตะวัน ไม่ผ่านรอบแรกในการแข่งขันรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เช่นเดียวกับ “น้องฟ้า” สิบตรีหญิง ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร ที่ไม่ผ่านรอบแรกในการแข่งขันรุ่นประชาชนหญิง สำหรับการแข่งขันรายการต่อไปที่นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทยจะเดินทางไปร่วมชิงชัย ได้แก่ การแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิง ชิงแชมป์เอเชีย 2022 ระหว่างวันที่ 20-21 สิงหาคม ที่ประเทศมาเลเซีย
ขณะที่ “โค้ชบอส” นายอัถร ไชมาโย ผู้ควบคุมทีมและผู้ฝึกสอนทีมบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทย เปิดเผยว่า น่าสียดายที่ โกเมธ ประสบอุบัติเหตุในรอบที่ 2 มิฉะนั้นน่าจะมีโอกาสผ่านเข้ารอบลึก ๆ ได้ อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าการแข่งขันในครั้งนี้ มีนักปั่นจากเอเชียเพียงมากี่คน ในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย นอกจาก 3 นักปั่นไทยแล้วก็มีนักปั่นจากญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย ชาติละ 2 คน ขณะที่ ชุติกาญจน์ เป็นนักปั่นเพียงคนเดียวจากเอเชีย นอกจากนั้นเป็นนักปั่นระดับโลกจากทวีปยุโรปและอเมริกาทั้งนั้น ถือว่านักปั่นไทยเราทำผลงานได้อย่างดีที่สุดแล้ว
“หลังจากนี้นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทยจะกลับไปฝึกซ้อมต่อ เพื่อเตรียมแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศมาเลเซีย ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ซึ่งคาดว่านักปั่นไทยชุดนี้น่าจะสร้างผลงานได้อย่างน่าพอใจ ประการสำคัญต้องขอขอบคุณท่านพลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ที่ให้การสนับสนุนส่งนักกีฬาไทยมาแข่งขันรายการระดับโลก เพื่อพัฒนาศักยภาพของนักปั่นไทยให้มีความแข็งแกร่ง และเป็นการวัดศักยภาพกับคู่แข่งทั้งในระดับนานาชาติและระดับเอเชียอีกด้วย” โค้ชอัถร กล่าวเสริม.