“ณัฐพล-ธนวัตร” แชมเปี้ยนเสือภูเขาทางเรียบ คว้าแชมป์ ปทท. ได้ครองถ้วยพระราชทานฯ ผวจ. สุพรรรณบุรีปลื้ม ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

การแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และการแข่งขันจักรยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2566 สนามที่ 4 ซึ่งเป็นสนามสุดท้าย ระหว่างวันที่ 9-10 กันยายน ที่เขื่อนกระเสียว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี สำหรับการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่บริเวณสำนักงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียว ได้รับเกียรติจาก นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน ร่วมกับ พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก นายสิทธิศักดิ์ แย้มพรายภิรมย์ นายอำเภอด่านช้าง, พ.ต.อ.ทัตเทพ เลิศลักษณ์มีพันธ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรด่านช้าง, นายจรัลชัย จันทร์สุวรรณ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี เขต 1 ด่านช้าง, นายอภิรักษ์ ศรีสุข หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียว พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในอำเภอด่านช้าง ร่วมในพิธีด้วย ซึ่งมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association ให้ชมตั้งแต่ต้นจนจบการแข่งขัน โดยมียอดผู้ชมรวมกันกว่า 15,000 วิว พร้อมทั้งผู้ชมต่างชาติจาก ฟิลิปปินส์, สปป.ลาว, กัมพูชา และเมียนมา ร่วมรับชมด้วย

สำหรับการแข่งขันครั้งนี้สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้จัดกิจกรรมปั่นเพื่อสุขภาพ “ขวัญใจเขื่อนกระเสียว” สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งมีนักปั่นชมรมจักรยานต่าง ๆ ทั้งในอำเภอด่านช้างและใกล้เคียงร่วมกิจกรรม เพื่อเป็นการสร้างสีสัน และประชาสัมพันธ์เขื่อนกระเสียว แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรี ให้ประชาชนทั่วไปได้รู้จัก พร้อมทั้งนักปั่นที่เข้าร่วมการแข่งขันในรายการเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) รุ่นต่าง ๆ รวมแล้วเกือบ 1,000 คน

นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ในนามของจังหวัดสุพรรณบุรี ขอขอบคุณ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ที่เชื่อมั่นละให้ความไว้วางใจเลือกพื้นที่เขื่อนกระเสียวจัดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และ “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ชิงถ้วยพระราชทานฯ สนามที่ 4 รวมทั้งกิจกรรมปั่นเพื่อสุขภาพ “ขวัญใจเขื่อนกระเสียว” โดย สสส. ต่อเนื่องอีกหนึ่งปี ซึ่งในปีที่ผ่าน ๆ มาสมาคมกีฬาจักรยานฯ ก็ได้ให้ความไว้วางใจจังหวัดสุพรรณบุรีมาโดยตลอด ปีนี้จังหวัดของเราเป็นเจ้าภาพสนามสุดท้าย ซึ่งมีนักกีฬาและผู้เข้าร่วมกิจกรรมรวมกันมากกว่า 1,000 คน รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่มาร่วมชมทิวทัศน์และความงามของเขื่อนกระเสียว ซึ่งเดินทางมาได้สะดวกไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร

พ่อเมืองสุพรรณบุรี กล่าวต่อไปว่า ผลดีที่ตามมาจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานรายการต่าง ๆ ส่งผลให้คนในพื้นที่มีความตื่นตัวในเรื่องการออกกำลังกายและรักษาสุขภาพด้วยการปั่นจักรยาน รวมทั้งผลดีในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ โรงแรมที่พักในอำเภอด่านช้างเต็มทุกแห่ง ร้านค้า ร้านอาหารต่าง ๆ มีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากนักกีฬาและผู้ติดตามที่มาเยือน นอกจากนี้อำเภอด่านช้างยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น ไปสัมผัสทะเลหมอกที่ยอดเขาเทวดา ภายในอุทยานแห่งชาติพุเตย, ชุมชนบ้านน้ำพุร้อน หรือปางอุ๋งสุพรรณบุรี และบ้านทุ่งดินดำ เป็นต้น เมื่อมีนักท่องเที่ยวมาเยือนแล้วก็มีการถ่ายภาพไปลงสื่อโซเชี่ยลต่าง ๆ ถือเป็นเผยการแพร่และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปได้รู้จักจังหวัดสุพรรณบุรีดียิ่งขึ้น ขอขอบคุณสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่มาสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้แก่จังหวัดสุพรรณบุรี รวมไปถึงนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขัน ในโอกาสหน้าขอเชิญให้มาเยือนอีกครั้ง ชาวจังหวัดสุพรรณบุรียินดีต้อนรับทุกท่าน

ขณะที่การแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) สนามสุดท้าย เป็นการตัดสินผู้ที่ได้แชมป์ประเทศไทย มีผลรุ่นที่น่าสนใจดังนี้ รุ่นอายุ 11-12 ปีชาย (ระยะทาง 14 กม.) ที่ 1 ด.ช.ณัฐพล ดวงวิเชียร ทีม Prime19 เวลา 28.42 นาที พร้อมกับคว้าแชมป์ประเทศไทย ด้วยคะแนนรวม 100 คะแนนเต็ม ได้ครองถ้วยพระราชทานฯ, ที่ 2 ด.ช.พชร หอมประไพ ทีม Prime19 เวลา 28.42 นาที, ที่ 3 ด.ช.ภพสุข สกุลณี โรงเรียนกีฬาจังหวัดนครนายก เวลา 28.42 นาที

รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปีหญิง (ระยะทาง 14 กม.) ที่ 1 ด.ญ.ธัญชนก จินาภิรมย์ ทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ สุราษฎร์ธานี โรงเรียนบางสวรรค์วิทยาคม เวลา 28.47 นาที, ที่ 2 ด.ญ.ปพิชญา แก้วหานาม ทีมบ้านนาไบค์ ชุมพร เวลา 28.47 นาที, ที่ 3 ด.ญ.สุรัสญา วงศ์พันธุ์ ทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย โรงเรียนศรัทธาสมุทร จ.สมุทรสงคราม เวลา 28.47 นาที ส่วนแชมป์ประเทศไทยเป็นของ ด.ญ.ปพิชญา แก้วหานาม ด้วยคะแนนรวม 90 คะแนน ได้ครองถ้วยพระราชทานฯ

รุ่นอายุ 15-16 ปีชาย (ระยะทาง 45.5 กม.) ที่ 1 นายธนวัตร สกุลแตร ทีม Prime19 -โรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง เวลา 1.15.24 ชั่วโมง พร้อมกับคว้าแชมป์ประเทศไทย ด้วยคะแนนรวม 100 คะแนนเต็ม ได้ครองถ้วยพระราชทานฯ, ที่ 2 ด.ช.คฑาวุธ ติวัน ทีม Prime19 เวลา 1.15.24 ชั่วโมง, ที่ 3 นายชนาธิป ไพรเลิศ ทีมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ-โกกิ เวลา 1.15.24 ชั่วโมง

รุ่นประชาชนชาย (ระยะทาง 45.5 กม.) ที่ 1 นายมนตรี ธีระทีป ทีม LCC เวลา 1.11.31 ชั่วโมง, ที่ 2 1นายวรพงษ์ เมืองสุข, ทีมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ-โกกิ เวลา 1.11.31 ชั่วโมง, นายภูดล โคตรพรม ทีมราชนาวี Hero Bike & Core Nutrition เวลา 1.13.18 ชั่วโมง ส่วนแชมป์ประเทศไทยเป็นของ นายภูดล โคตรพรม ด้วยคะแนนรวม 84 คะแนน ได้ครองถ้วยพระราชทานฯ

รุ่นประชาชนหญิง (ระยะทาง 45.5 กม.) ที่ 1 น.ส.อนัญญา ใจช่วง ทีม Core Nutrition Cycling เวลา 1.28.48 ชั่วโมง, ที่ 2 น.ส.กุลนิษฐ์ น้ำใจสุข ทีม Core Nutrition Cycling เวลา 1.30.42 ชั่วโมง, ที่ 3 น.ส.โบตั๋น วิไซ ทีม Elves GSB13 FNC Bike Fiction เวลา 1.30.45 ชั่วโมง ส่วนแชมป์ประเทศไทยเป็นของ น.ส.กุลนิษฐ์ น้ำใจสุข ด้วยคะแนนรวม 88 คะแนน ได้ครองถ้วยพระราชทานฯ สำหรับผลการแข่งขันทั้งหมดสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.thaicycling.or.th หรือผู้ที่ต้องการชมย้อนหลังสามารถรับชมได้ที่ YouTube : TCA Chanal ได้ตลอดเวลา

ส่วนโปรแกรมการแข่งขัน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ในวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม มีทั้งหมด 13 รุ่นทั้งชายและหญิง เริ่มปล่อยตัวตั้งแต่เวลา 08.00 น. ได้รับเกียรติจาก นายปริญญา เขมะชิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน ที่บริเวณสำนักงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียว เริ่มเวลา 07.30 น. จากนั้นเริ่มปล่อยตัวนักกีฬาเวลา 08.00 น. แบ่งเป็น รุ่นประชาชนชาย, รุ่นเยาวชนชาย, รุ่นอายุ 30-34 ปีชาย, รุ่นอายุ 35-39 ปีชาย, รุ่นอายุ 40-44 ปีชาย, รุ่นอายุ 45-49 ปีชาย, รุ่นอายุ 50-54 ปีชาย, รุ่นอายุ 55-59 ปีชาย, รุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไปชาย, รุ่นประชาชนหญิง, รุ่นเยาวชนหญิง, รุ่นอายุ 35-39 ปีหญิง และรุ่นอายุ 40 ปีขึ้นไปหญิง เส้นทางเริ่มจากหน้าสำนักงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียวแล้วกลับมาเข้าเส้นชัยที่เดิม ระยะทางรวม 63 กม. โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association ให้ชมตั้งแต่เวลา 07.30 น. เป็นต้นไป.