จาย มุ่งมั่นเต็มที่ลุยศึกชิงแชมป์โลก ขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทยช่วยเชียร์ เป้าหมายคว้าตั๋วไปโอลิมปิกที่โตเกียว

“จาย อังค์สุทธาสาวิทย์” มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการฝึกซ้อมเตรียมตัวลุยศึกจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์โลก “ยูซีไอ แทร็ค เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์” วันที่ 26 ก.พ.-1 มี.ค. ที่เยอรมนี เป้าหมายหวังคว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ให้ได้ ขอแรงใจพี่น้องชาวไทยช่วยเชียร์ผ่าน “เฟซบุ๊กแฟนเพจ”…

จาย มุ่งมั่นเต็มที่ลุยศึกชิงแชมป์โลก ขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทยช่วยเชียร์ เป้าหมายคว้าตั๋วไปโอลิมปิกที่โตเกียว

จาย มุ่งมั่นเต็มที่ลุยศึกชิงแชมป์โลก ขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทยช่วยเชียร์ เป้าหมายคว้าตั๋วไปโอลิมปิกที่โตเกียว

“จาย อังค์สุทธาสาวิทย์” มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการฝึกซ้อมเตรียมตัวลุยศึกจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์โลก “ยูซีไอ แทร็ค เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์” วันที่ 26 ก.พ.-1 มี.ค. ที่เยอรมนี เป้าหมายหวังคว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ให้ได้ ขอแรงใจพี่น้องชาวไทยช่วยเชียร์ผ่าน “เฟซบุ๊กแฟนเพจ” และ “อินสตาแกรม” ส่วนตัว เพื่อเป็นแรงผลักดันให้ฮึดสู้ในการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติต่อไป ด้าน “พลเอกเดชา” เผยหลังจาก “จาย” ทำผลงานประเภทคีรินในศึก “เวิลด์ คัพ” ทั้ง 6 สนามได้อย่างยอดเยี่ยม มีคะแนนสะสมจบฤดูกาลเป็นอันดับ 1 ได้รับรางวัลกว่า 3 แสนบาท สมาคมกีฬาจักรยานฯ เตรียมมอบให้เจ้าตัวทั้งหมด

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า การแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ยูซีไอ แทร็ค เวิลด์ คัพ 2019-2020 สนามที่ 6 ซึ่งเป็นสนามสุดท้าย ที่เมืองมิลตัน ประเทศแคนาดา เมื่อวันเสาร์ที่ 25 ม.ค.  ผลปรากฏว่า “ทีเจ” จาย อังค์สุทธาวิทย์ นักปั่นทีมชาติไทย จบการแข่งขันที่อันดับ 8 ในประเภทคีริน เก็บคะแนนสะสมโอลิมปิก เพิ่มอีก275 คะแนน 


พลเอกเดชา กล่าวว่า จาย ทำผลงานยอดเยี่ยมเข้าเส้นชัยอันดับ 1 ในรอบคัดเลือก แต่ไปพลาดท่าในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ฮีท ตัดเอาอันดับ 1-3 ของแต่ละฮีทเข้าไปรอบชิงชนะเลิศ 6 คนสุดท้าย โดย จาย พยายามหาช่องแซงขึ้นตลอดระยะทางรอบสุดท้าย แต่ก็เบียดไม่ทัน จึงเข้าเส้นชัยอันดับที่ 4 ทำให้ต้องไปแข่งขันในรอบจัดอันดับ 7-12 และเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2 คว้าอันดับที่ 8 มาครอง ส่งผลให้คะแนนคัดโอลิมปิกของไทยยังคงตามหลังเวเนซุเอลา และคาซักสถานที่ มีอันดับดีกว่าเท่าเดิม

“จากผลเวิลด์คัพสามสุดท้าย ทำให้เราต้องลุ้นกันหนักขึ้นในศึกจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์โลก หรือ ยูซีไอ แทร็ค เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ ระหว่างวันที่ 26 ก.พ.-1 มี.ค. ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี โดย จาย จะต้องพยายามฝ่าเข้ารอบชิงชนะเลิศให้ได้ เพื่อเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด ในขณะที่ต้องลุ้นไม่ให้ชาติที่มีคะแนนเหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็นเวเนซุเอล่า หรือ คาซักสถาน ได้คะแนนน้อยที่สุด ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นงานที่หนักมาก” พลเอกเดชา กล่าว

นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ กล่าวต่อไปว่า แม้ผลงานสนามสุดท้ายของศึกเวิลด์คัพจะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่โอกาสก็ยังเปิดสำหรับการควอลิฟายโควต้าโอลิมปิกในประเภทคีริน โดยจายจะเดินทางกลับไปยังศูนย์ฝึกจักรยานโลกที่สวิตเซอร์แลนด์เพื่อฝึกซ้อมต่อทันทีในห้วงเวลาที่เหลืออยู่อีกหนึ่งเดือนเศษก่อนถึงการแข่งขันชิงแชมป์โลก ในขณะเดียวกัน ก็จะมี วรยุทธ คะปัญญา กับนักปั่นดาวรุ่ง จีระพงศ์ ภักดิ์ศรีวงศ์ เดินทางไปสมทบเพื่อร่วมฝึกซ้อมทีมสปรินท์เตรียมทำศึกชิงแชมป์โลก 2020

อย่างไรก็ตาม พลเอกเดชา กล่าวว่า จากผลงานสม่ำเสมอของ จาย ในศึกเวิลด์คัพทั้ง 6 สนาม ส่งผลให้จายมีคะแนนสะสมในคีริน เวิลด์คัพ จบฤดูกาลเป็นอันดับ 1 มี 1,595 คะแนน ได้รางวัลคะแนนสะสมคีริน เวิลด์คัพ ประจำปี 2019-2020 จำนวน 10,000 ฟรังค์สวิส (ประมาณ 315,000 บาท) ซึ่งทางสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) จะโอนเงินรางวัลดังกล่าวมายังสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ หลังจากนั้นสมาคมฯ จะเบิกจ่ายเงินทั้งหมดมอบให้แก่ จาย ต่อไป


ส่วน จาย เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่คิดถึงการจะควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ “โตเกียว 2020” ได้หรือไม่ ภารกิจที่ต้องทำก็คือเป้าหมายในการทำผลงานให้ดีที่สุดในศึกจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์โลก ตนเอง และ โค้ชเคร้ก แม็กลีน จะได้นำเอาผลงานของแต่ละสนามไปวิเคราะห์เพื่อปิดจุดอ่อนในการแข่งขันให้ได้ผลงานที่ดีที่สุดในศึกชิงแชมป์โลก ที่กรุงเบอร์ลิน ซึ่งตนเองเชื่อว่ามีดีพอที่จะเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ และหากหลุดเข้าไปเป็น 1 ใน 6 นักปั่นรอบชิงชนะเลิศ สำหรับการแข่งขันคีรินอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้

“ระยะเวลาหลังจากนี้อีกประมาณ 1 เดือน ผมจะตั้งใจฝึกซ้อมให้หนัก และจะสู้อย่างสุดความสามารถ เพื่อทำผลงานให้ได้ตามเป้าหมาย จึงขอให้พ่อแม่พี่น้องชาวไทย ช่วยส่งกำลังใจมาเชียร์ผมด้วย โดยสามารถส่งข้อความไปได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจส่วนตัวของผม ที่ชื่อว่า Jai - จาย อังค์สุธาสาวิทย์ – Angsuthasawit หรือ อินสตาแกรม (IG) tjjai ทุกข้อความ ทุกกำลังใจที่แฟน ๆ จักรยานส่งมานั้น ผมได้อ่านทั้งหมด ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้ผมฮึดสู้ เพื่อสร้างความสุขให้พี่น้องคนไทย และสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติต่อไป” จาย กล่าว ในตอนท้าย.