นัฐนันท์-นันทกร สองพี่น้องตระกูล นนทะแก้ว ผงาดแชมป์จักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย)

“นัฐนันท์-นันทกร” สองพี่น้องตระกูล “นนทะแก้ว” ผงาดคว้าแชมป์จักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) สนามที่ 1 ที่พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี โดยได้รับเกียรติ “นายชูชีพ พงษ์ไชย” รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน…

นัฐนันท์-นันทกร สองพี่น้องตระกูล นนทะแก้ว ผงาดแชมป์จักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย)

นัฐนันท์-นันทกร สองพี่น้องตระกูล นนทะแก้ว ผงาดแชมป์จักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย)

“นัฐนันท์-นันทกร” สองพี่น้องตระกูล “นนทะแก้ว” ผงาดคว้าแชมป์จักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) สนามที่ 1 ที่พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี โดยได้รับเกียรติ “นายชูชีพ พงษ์ไชย” รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน ด้าน “พลเอกเดชา” เผยมีนักปั่นมาร่วมชิงชัยเป็นจำนวนมาก ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และทำให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันสมาคมกีฬาจักรยานฯ ยังยึดมาตรการหลัก 5 ข้อในการป้องกันการแพร่ระบาด “โควิด-19” ของ ศบค. อย่างเคร่งครัด สำหรับผู้ที่คว้าแชมป์ 2 สนาม จะได้ครองถ้วยพระราชทานฯ 

การแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และการแข่งขันจักรยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2563 ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal สนามที่ 1 ที่หน้าพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 12 กันยายน เป็นการแข่งขันเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) โดยได้รับเกียรติจาก นายชูชีพ พงษ์ไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดและปล่อยตัวนักกีฬา โดยมี “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมในพิธี 


หลังจากพิธีเปิด พลเอกเดชา เปิดเผยว่า การแข่งขันในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะมีนักปั่นเข้าร่วมเป็นจำนวนมากเกือบ 500 คน ซึ่งมาจากทุกภาคของประเทศไทย อาจเป็นเพราะทุกคนต่างเฝ้ารอการแข่งขันมานาน และสนามนี้เป็นสนามแรก จากเดิมเราจะจัดทั้งหมด 4 สนาม แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงต้นปี จึงต้องลดเหลือเพียง 2 สนาม โดยสนามที่ 2 จะจัดที่เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก ระหว่างวันที่ 12-13 พฤศจิกายน ผู้ที่ได้คะแนนรวมทั้ง 2 สนามก็จะได้ครองถ้วยพระราชทานฯ กรณีที่มีคะแนนเท่ากัน จะดูผลการแข่งขันในสนามที่ 2 เป็นหลัก ส่วนผู้ที่เป็นแชมป์รุ่นต่าง ๆ ประจำแต่ละสนามก็จะได้ถ้วยรางวัล พร้อมประกาศนียบัตร และเสื้อที่ระลึกเช่นเดิม

พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับการจัดแข่งขันในสนามที่ 1 นี้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งได้มอบหมายให้ นายชูชีพ พงษ์ไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี มาเป็นประธานในพิธีเปิด สิ่งสำคัญอีกประการคือบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในอำเภอดอนเจดีย์ มีความคึกคัก หลังจากที่ผ่านมาเศรษฐกิจค่อนข้างซบเซา เพราะมีนักกีฬารวมทั้งผู้ติดตามเกือบ 2,000 คน มาจับจ่ายใช้สอย ทำให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น สำหรับการแข่งขันวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน เป็นการแข่งขัน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ก็จะมีนักกีฬาและผู้ติดตามจำนวนมากมาช่วยกระคุ้นเศรษฐกิจให้อำเภอดอนเจดีย์เช่นเดียวกัน 


นายกสองล้อ กล่าวอีกว่า สมาคมกีฬาจักรยาน ยังรักษามาตรฐานการจัดแข่งขันแบบ New Normal โดยยึดมาตรการหลัก 5 ข้อในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. อย่างเคร่งครัด ได้แก่ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอลล์ รักษาระยะห่าง หลีกเลี่ยงการสัมผัส และจำกัดจำนวนคน นอกจากนี้ในทุกสนามที่สมาคมฯ จัดการแข่งขัน ก็จะมีจุดคัดกรองตรวจวัดอุณภูมิ และลงทะเบียนแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” มีการปิดกั้นพื้นที่ ห้ามผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าภายในบริเวณพื้นที่จัดการแข่งขัน รวมไปถึงภาคเอกชนที่จะขออนุญาตจัดการแข่งขันก็ต้องยึดถือมาตรการนี้ด้วย 

สำหรับการแข่งขันเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) ปั่นระยะทาง 39.50 กม.  มีผลปรากฏดังนี้ รุ่นทั่วไปชาย ที่ 1 นายวรากร ผอบแก้ว (ทีม 100 ลี้), ที่ 2 นายอัมรินทร์ สวัสดี (ทีม 100 ลี้), ที่ 3 นายเกริกเกียรติ บุญสอาด (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ Singha-GOGI) เวลา 58.02 นาที เท่ากัน ขณะที่ “เบส” นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ นักปั่นทีมชาติ จาก Lomo Cycle Chonburi เข้าเส้นชัยเป้นที่ 5 เวลา 1.00 ชั่วโมง, รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีชาย ที่ 1 นายธนพล วงศ์หล้า (รร.กีฬาจังหวัดลำปาง/ สนง.ตำรวจแห่งชาติ Singha-GOGI), ที่ 2 นายดนัย เจริญช่าง (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ Singha-GOGI), ที่ 3 นายธนายุต พาหวล (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ Singha-GOGI) เวลา 1.00.13 ชั่วโมงเท่ากัน


รุ่นทั่วไปหญิง ที่ 1 น.ส.ธีรรัตน์ พิทยานุรักษ์ (จักรยานสิงห์บุรี Trinx Chaoyang) เวลา 1.09.05 ชั่วโมง, ที่ 2 น.ส.สุนารี การินทร์ (EN KKU) เวลา 1.09.09 ชั่วโมง, ที่ 3 น.ส.ปรียานุช จินณวัฒน์ (GRACE CROSSFIT CYCLING TEAM) เวลา 1.14.35 ชั่วโมง, รุ่นอายุไม่เกิน18 ปีหญิง ที่ 1 “น้องน้ำ” น.ส.นัฐนันท์ นนทะแก้ว (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย) เวลา 1.09.05 ชั่วโมง, ที่ 2 ด.ญ.พลอปภัส ศรีใสไพ (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย รร.โคกกระเทียมวิทยาลัย) เวลา 1.14.34 ชั่วโมง, ที่ 3 น.ส.บุณลักษณ์ษา ชุ่มแก (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ Singha-GOGI) 1.14.34 ชั่วโมง

ผลการแข่งขันรุ่นอื่น ๆ รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปีชาย ที่ 1 ด.ช.นันทกร นนทะแก้ว (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย รร.โคกกระเทียมวิทยาลัย) เวลา 1.02.06 ชั่วโมง สำหรับ ด.ช.นันทกร เป็นน้องชายของ น.ส.นัฐนันท์ นนทะแก้ว เท่ากับว่าสนามนี้ สองพี่น้อง “นนทะแก้ว” คว้าแชมป์ไปครองทั้งคู่, รุ่นอายุ 30-34 ปีชาย ที่ 1 นายอภิรักษ์ เตชะแก้ว (อิสระ) เวลา 58.56 นาที, รุ่นอายุ 35-39 ปีชาย จ.อ.เจษฎา สุทธิวิริยะกุล (ราชนาวี) เวลา 1.00.27 ชั่วโมง, รุ่นอายุ 40-44 ปีชาย ที่ 1 นายณัฐพล คุ้มใหญ่โต (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ กองบิน 46 พิษณุโลก) เวลา 59.39 นาที, รุ่นอายุ 45-49 ปีชาย ที่ 1 นายศักดิ์ดา กฤชคฤหาสถ์ (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ พระราม 3) เวลา 1.00.12 ชั่วโมง, 



รุ่นน้ำหนัก 90 กก.ขึ้นไปชายอายุไม่เกิน 34 ปีชาย ที่ 1 นายจิระวัฒน์ สวัสดิภักษ์ (ทีม 100 ลี้) เวลา 1.01.32 ชั่วโมง, รุ่นน้ำหนัก 90 กก. อายุ 35 ปีขึ้นไปชาย นายสุรชัย หวังปัญญา (SKD Bike Team) เวลา 1.02.31 ชั่วโมง,  รุ่นอายุ 50-54 ปีชาย ที่ 1 นายฮานส์ บาร์ต ไคน์ด (BMC Asia Bike) เวลา 58.05 นาที, รุ่นอายุ 55-59 ปีชาย นายสายัณห์ ปัญญาคณานุกูล (Citi Bank-Thaioil)เวลา 1.06.10 ชั่วโมง, รุ่นอายุ 60 ปีชายขึ้นไป ที่ 1 นายอารักษ์ ยุ่นประยงค์ (อิสระชล2012) เวลา 1.09.08 ชั่วโมง, รุ่นอายุ 35 ปีหญิง ที่ 1 น.ส.อรชุมา พุทธา (อิสระ) เวลา 1.14.34 ชั่วโมง

ส่วนรุ่นยุวชนปั่นระยะทาง 17.80 กม. มี 3 รุ่น ผลดังนี้ รุ่นอายุไม่เกิน 10 ปีชาย ที่ 1 ด.ช.ปกรณ์เกียรติ คูณทวี (PEA.BC สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดศรีสะเกษ) เวลา 32.24 นาที, ที่ 2 ด.ช.คฑาวุธ ติวัน (ทีม Prime 19 สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดพะเยา) เวลา 32.25 นาที, ที่ 3 ด.ช.กิตติกวิน มูลทอง (วังตะวันไบค์ ปราจีนบุรี) เวลา 32.26 นาที, รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปีชาย ที่ 1 ด.ช. ประภวิษณ์ เตชะธรรมพงษ์ (สำราญวู๊ดชิพ อบจ.ปราจีนบุรี รร.มารีวิทยากบินทร์) เวลา 32.27 นาที, ที่ 2 ด.ช.วัชรพงษ์ สังฆะสอน (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ กองบิน 46 พิษณุโลก) เวลา 32.28 นาที, ที่ 3 ด.ช.พีรพล เจริญสุข (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ Singha-GOGI) เวลา เวลา 32.30 นาที


รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปีหญิง ที่ 1 ด.ญ.ชิน รุ่งโชติวัฒนา (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย รร.โคกกระเทียมวิทยาลัย), ที่ 2 ด.ญ.ปาริชาติ พลเยี่ยม (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย รร.โคกกระเทียมวิทยาลัย), ที่ 3 ด.ญ.ฐนิญาพร สิงห์ทอง (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย) เวลา 32.13 นาที เท่ากัน ด้านผลการแข่งขันทั้งหมดติดตามได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th

ส่วนการแข่งขันวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน จะเป็นการแข่งขันจักยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” เริ่มเวลา 08.00 น. ปล่อยตัวรุ่น AV 40,  เวลา 08.05 ปล่อยตัวรุ่น AV 35, เวลา 08.10 น. ปล่อยตัวรุ่น AV30 โดยแฟนกีฬาจักรยานสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊ก Thaicycling Association ตั้งแต่ต้นจนเสร็จสิ้นการแข่งขัน.