“สองล้อ” ตั้งเป้าคว้าโควตาไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส รวม 4 ที่นั่ง โดยได้จาก “โกเมธ สุขประเสริฐ” ในประเภทบีเอ็มเอ็กซ์มาแล้ว 1 ที่นั่งในฐานะแชมป์ทวีปเอเชีย ส่วนอีก 3 ที่นั่ง หวังจากประเภทถนนหญิง ประเภทถนนชาย และประเภทลู่ระยะสั้น ประเภทละ 1 ที่นั่ง โดยประเภทถนนชายยังต้องส่งนักปั่นทั้งชุดใหญ่และชุดเล็กไปตระเวนแข่งขันรายการต่าง ๆ ในประเทศอิหร่าน, จีน, มาเลเซีย และโอมาน เพื่อเก็บคะแนนสะสมเพิ่มและรักษาตำแหน่งให้อยู่ในอันดับ 1-45 โลกก่อนจะถึงเส้นตายวันที่ 17 ต.ค.66 ขณะที่ประเภทลู่ระยะสั้น “จาย อังค์สุธาสาวิทย์” มีโปรแกรมลงแข่งขันอีก 3 รายการใหญ่ช่วงต้นปี 2567 ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะเก็บคะแนนได้เป็นกอบเป็นกำและสร้างประวัติศาสตร์ผ่านควอลิฟายโอลิมปิกในประเภทลู่เป็นคนแรกของไทย
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการที่สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ได้ประกาศคะแนนสะสมคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ในประเภทถนน รุ่นประชาชนชาย ทีมชาติไทยอยู่ในอันดับ 43 โลก มีคะแนนสะสม 849 คะแนน ส่วนรุ่นประชาชนหญิง อยู่อันดับ 30 โลก มีคะแนนสะสม 770 คะแนน เมื่อพิจารณาจากระยะเวลาที่เหลืออยู่ ซึ่งการคัดเลือกจักรยานประเภทถนนจะใช้คะแนนอันดับ 1-45 ของโลก โดยจะตัดยอดในวันที่ 17 ตุลาคม นักปั่นทีมชาติไทยประเภทถนนหญิง มีโอกาสสูงมากที่จะได้โควตาไป “ปารีสเกมส์” ในขณะที่ประเภทถนนชาย ยังต้องลุ้นรักษาอันดับให้อยู่ในท็อป 45 ของโลก
พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับนักกีฬาทีมชายนั้นยังถือว่าอยู่ในโซนที่ยังไม่ปลอดภัยนัก เนื่องจากยังมีประเทศที่มีคะแนนไล่หลังเรามาติด ๆ ประกอบด้วย อันดับ 44 ทีมชาติเวเนซูเอล่า มี 735 คะแนน, อันดับ 45 ทีมชาติรวันดา มี 734.66 คะแนน และ อันดับ 46 ทีมชาติจีน มี 718.32 คะแนน ดังนั้นสมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงไม่ประมาทต้องส่งนักกีฬาทั้งทีมชาติไทย และทีมอาชีพไทยแลนด์ คอนติเนตัล ไซคลิง ไปตะเวนแข่งขันรายการต่าง ๆ เพื่อเก็บคะแนนสะสม โดยจะส่งทีมชาติไทยชุดใหญ่ไปแข่งขัน 4 รายการ และทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี อีก 1 รายการ เพื่อเก็บคะแนนและรักษาอันดับโลกไม่ให้ต่ำไปกว่านี้
นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า ในส่วนของทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งจะลงแข่งขัน 4 รายการ ได้แก่ ทัวร์ ออฟ อิหร่าน (อาเซอร์ไบจาน) ระหว่างวันที่ 27-31 สิงหาคม ที่ประเทศอิหร่าน เป็นการแข่งขันระดับ UCI 2.1 จากนั้นเป็นการแข่งขัน ทัวร์ ออฟ โปยาง เลค ระหว่างวันที่ 8-12 กันยายน ที่ประเทศจีน ในระดับ UCI 2.2 ต่อด้วยการแข่งขัน ทัวร์ ออฟ ไท่หู่ เลค ระหว่างวันที่ 14-17 กันยายน ที่ประเทศจีน ในระดับ UCI 2.Pro และปิดท้ายด้วย เลอ ทัวร์ เดอ ลังกาวี ระหว่างวันที่ 23-30 กันยายน ที่ประเทศมาเลเซีย ในระดับ UCI 2.Pro ก่อนจะเดินทางไปแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ซึ่งจักรยานประเภทถนนจะแข่งขันระหว่างวันที่ 3-5 ตุลาคม สำหรับนักกีฬาชายชุดใหญ่ประกอบด้วย พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง, ส.ท.สราวุฒิ สิริรณชัย, ร.ต.ท.นวติ ลี้พงษ์อยู่, ส.ต.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ, นายรัชชานนท์ เยาวรัตน์, นายนพชัย กล้าหาญ โดยมี “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน, ร.ต.อ.ณัฐพล จีบถาวรธาวิต เป็นช่างประจำทีม และ จ.ส.อ.รัฐพงศ์ เรือนเมา เป็นนักกายภาพบำบัด
“เสธ.หมึก” กล่าวต่อไปว่า ด้านทีมชาติไทยชุดเล็ก หรือรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะเดินทางไปแข่งขันรายการ ทัวร์ ออฟ ซาลาล่าห์ ระหว่างวันที่ 10-13 กันยายน ที่ประเทศโอมาน เป็นการแข่งขันระดับ UCI 2.2 นักกีฬาประกอบด้วย จ.ส.ต.ณัฐพล จำชาติ, นายวรุตม์ แปะกระโทก, จ.ต.ตุลธร โสสลาม, นายศุภโชค แก้วสุยะ, นายก้องภพ ทิมาไชย, นายพลวัต สกุลธนาภูมิ โดยมี “โค้ชนพ” ร.ต.อ.อดิศักดิ์ วรรณศรี เป็นผู้ฝึกสอน และ นายอเนก ศาสตร์ทรัพย์ เป็นช่างประจำทีม ขณะที่ทีมหญิง มีแข่งขัน 2 รายการใหญ่ที่ประเทศจีนสองรายการติดต่อกันในเดือนตุลาคม ก่อนจะถึงเส้นตายคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ คือรายการ ทัวร์ ออฟ เหวินโจว ระหว่างวันที่ 10-11 ตุลาคม ในระดับ UCI 2.2 และทัวร์ ออฟ จงหมิง ไอส์แลนด์ ระหว่างวันที่ 12-14 ตุลาคม เป็นการแข่งขันระดับ 2.WWT มีคะแนนสะสมสูงมาก
พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับนักกีฬาหญิงทีมชาติไทยประกอบด้วย ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์, พ.ต.หญิง จันทร์เพ็ง นนทะสิน, ส.อ.หญิง เพชรดารินทร์ สมราช, ส.ต.หญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ และ น.ส.กมลรดา ขาวปลอด โดยมี “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน, ร.ต.อ.ณัฐพล จีบถาวรธาวิต เป็นช่างประจำทีม และ จ.ส.อ.รัฐพงศ์ เรือนเมา เป็นนักกายภาพบำบัด หากนักปั่นไทยทั้งชายและหญิงเก็บคะแนนสะสมได้ตามเป้าหมายคือทีมชายไม่น้อยกว่า 30 คะแนนในทุกรายการและทีมหญิงอีกไม่น้อยกว่า 20 คะแนน นักปั่นไทยประเภทถนนก็จะได้โควตาทั้งชายและหญิงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์จากที่เคยควอลิฟายในประเภทถนนหญิงตั้งแต่โอลิมปิกเกมส์ 2008 มาจนถึงโอลิมปิกเกมส์ 2020 โดยเฉพาะทีมหญิงหากสามารถเก็บคะแนนได้มาก ๆ แล้วขยับไปอยู่ในอันดับ 1-20 ของโลก ก็จะได้โควตาเพิ่มเป็น 2 คน ในรายการโรดเรซ 1 คน และไทม์ไทรอัล 1 คน
“เสธ.หมึก” เปิดเผยอีกว่า ส่วนประเภทลู่ จากผลงานของ “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ในศึกจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์โลก 2023 หรือ “ยูซีไอ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิป 2023” ที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ จาย ติดเป็นอันดับ 11 ในประเภทคีรินได้เพิ่ม 615 คะแนน ส่งผลให้อันดับการคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ในรายการคีรินอยู่อันดับที่ 13 ซึ่งจักรยานประเภทลู่จะตัดโควตาโอลิมปิกเกมส์ในเดือนเมษายน 2567 โดยยังเหลือการแข่งขันที่จะใช้คะแนนคัดโอลิมปิกเกมส์อีก 3 รายการ ได้แก่ จักรยานประเภทลู่ ยูซีไอ เนชั่นส์ คัพ สนามที่ 1 ที่ ระหว่างวันที่ 15-17 มีนาคม 2567 เขตบริหารพิเศษฮ่องกง, สนามที่ 2 ที่ ระหว่างวันที่ 12-14 เมษายน 2567 ประเทศแคนาดา และการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ในเดือนกุมภาพันธ์2567 ที่ประเทศอินเดีย เชื่อมั่นว่าจายน่าจะสามารถเก็บคะแนนเป็นกอบเป็นกำจากทั้ง 3 รายการและผ่านควอลิฟายโอลิมปิกในประเภทลู่เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์จักรยานไทยแน่นอน
“สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ตั้งเป้าหมายให้นักกีฬาควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ 2024 เอาไว้ 4 ที่นั่ง โดยได้โควตาประเภทบีเอ็มเอ็กซ์แล้ว 1 ที่นั่ง จาก ส.ต.โกเมธ สุขประเสริฐ ซึ่งไปคว้าแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รวมทั้งจากประเภทถนนหญิง 1 ที่นั่ง ประเภทถนนชาย 1 ที่นั่ง และประเภทลู่ระยะสั้น 1 ที่นั่ง ซึ่งเมื่อพิจารณาจากคะแนนสะสมล่าสุด ประเภทถนนหญิงจะได้โควตาแน่นอน 1 ที่นั่ง ขณะที่ประเภทถนนชายและประเภทลู่ระยะสั้น มีโอกาสสูงที่จะได้โควตาตามเป้าหมาย ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ เชื่อมั่นว่านักปั่นทีมชาติไทยจะทำผลงานในการคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้ดีเกินกว่าเป้าหมายที่วางเอาไว้อย่างแน่นอน” พลเอกเดชา กล่าว.
English
