“สองล้อ” พัฒนาบุคลากรตามแผนยุทธศาสตร์ จัดอบรมผู้ตัดสินประเภทถนนระดับนานาชาติ เพื่อยกระดับผู้ตัดสินไทยและเอเชียไปสู่สากล

“สองล้อ” เดินหน้าพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ของสมาคมฯ ด้วยการจัดการอบรมพัฒนาผู้ตัดสินกีฬาจักรยานอาชีพประเภทถนน ระดับนาชาติ “Elite Road National Commissaire Course” วันที่ 1-5 พ.ย.นี้ ที่ จ.สุพรรณบุรี ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการกีฬาอาชีพ…

“สองล้อ” พัฒนาบุคลากรตามแผนยุทธศาสตร์ จัดอบรมผู้ตัดสินประเภทถนนระดับนานาชาติ เพื่อยกระดับผู้ตัดสินไทยและเอเชียไปสู่สากล

“สองล้อ” พัฒนาบุคลากรตามแผนยุทธศาสตร์ จัดอบรมผู้ตัดสินประเภทถนนระดับนานาชาติ เพื่อยกระดับผู้ตัดสินไทยและเอเชียไปสู่สากล

“สองล้อ” เดินหน้าพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ของสมาคมฯ ด้วยการจัดการอบรมพัฒนาผู้ตัดสินกีฬาจักรยานอาชีพประเภทถนน ระดับนาชาติ “Elite Road National Commissaire Course” วันที่ 1-5 พ.ย.นี้ ที่ จ.สุพรรณบุรี ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ โดยมี “มาร์ติน สวิงเคิลส์” วิทยากรชาวเนเธอร์แลนด์ ที่ได้รับมอบหมายจาก “ยูซีไอ” มาเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการอบรมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจำนวน 20 คน สำหรับผู้ที่สอบผ่านทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ จะมีโอกาสต่อยอดไปอบรมในระดับ International Commissaire หรือผู้ตัดสินระดับนานาชาติขั้นสูงสุดในอนาคต
S01
 “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ในการจัดการอบรมพัฒนาผู้ตัดสินกีฬาจักรยานอาชีพประเภทถนน ระดับนานาชาติ “Elite Road National Commissaire Course” ระหว่างวันที่ 1-5 พฤศจิกายน ศกนี้ ที่โรงแรมวาสิฎฐี ซิตี้ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมี มาร์ติน สวิงเคิลส์ วิทยากรชาวเนเธอร์แลนด์ ที่ได้รับมอบหมายจากสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) มาให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการอบรมจำนวนทั้งสิ้น 20 คน จากประเทศไทย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, ฮ่องกง, อินเดีย, เกาหลีใต้, อินโดนีเซีย และ สิงคโปร์
S03
 พลเอกเดชา กล่าวว่า โครงการอบรมผู้ตัดสินจักรยานอาชีพประเภทถนน ระดับนานาชาติ ดังกล่าวนี้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ทำตามแผนยุทธศาสตร์ของสมาคมฯ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางเอาไว้คือ 1.เพื่อเป็นการยกระดับผู้ตัดสินทั้งของไทยและในทวีปเอเชียให้เท่าระดับสากล 2.เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ตัดสินระดับนานาชาติในทวีปเอเชีย 3.เพื่อสร้างผู้ตัดสินระดับนานาชาติของไทยขึ้นมาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง และมีการพัฒนาต่อยอดไปอบรมในระดับ International Commissaire หรือผู้ตัดสินระดับนานาชาติขั้นสูงสุด ซึ่งจะสามารถเดินทางไปตัดสินการแข่งขันจักรยานรายการต่าง ๆ ได้ทั่วโลก ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ตัดสินระดับนานาชาติขั้นสูงสุด จำนวน 2 คน ได้แก่ นายณัฐพงศ์ โลหิตนาวี ผู้ตัดสินระดับนานาชาติประเภทถนน และนายขัตติยะ ศรีโสดา ผู้ตัดสินระดับนานาชาติประเภทบีเอ็มเอ็กซ์
S04
 นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า สำหรับผู้เข้ารับการอบรมพัฒนาผู้ตัดสินกีฬาจักรยานอาชีพประเภทถนน ระดับนานาชาติ “Elite Road National Commissaire Course” ที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดขึ้นนั้น จะต้องมีทักษะ มีความรู้ความเข้าใจในกฎกติกากีฬาจักรยาน และมีทักษะด้านภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี เนื่องจากต้องใช้ภาษาอังกฤษตลอดการเข้ารับอบรม รวมไปถึงการสอบภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ อีกทั้งสามารถต่อยอดไปอบรมในระดับ International Commissaire หรือผู้ตัดสินระดับนานาชาติขั้นสูงสุดในอนาคต ส่วนผู้ที่ผ่านการอบรมแล้วต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์การตัดสินทั้งในประเทศและนอกประเทศทั้งรายการทั่วไปและรายการนานาชาติ โดยยูซีไอจะแต่งตั้งให้เป็นผู้ตัดสินฝึกหัดในการแข่งขันระดับนานาชาติรายการต่าง ๆ
S04
“เสธ.หมึก” กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ เมื่อยูซีไอเปิดรับสมัครการอบรมผู้ตัดสินระดับนานาชาติขั้นสูงสุด หรือ International Commissaire ก็จะคัดเลือกผู้เข้าอบรมจากประสบการณ์ และคะแนนสอบจากการอบรมระดับนานาชาติในครั้งนี้ และถ้าหากสามารถสอบผ่านภาคทฤษฎีในการเป็นผู้ตัดสินระดับนานาชาติขั้นสูงสุดแล้ว ทางยูซีไอจะแต่งตั้งเป็นหัวหน้าผู้ตัดสิน หรือ PCP ในรายการนานาชาติเพื่อเป็นการสอบภาคปฏิบัติ โดยมีผู้ตัดสินนานาชาติที่มากประสบการณ์เป็นผู้ควบคุมและให้คะแนน หากผ่านภาคปฏิบัติก็จะถูกบรรจุเป็นผู้ตัดสินนานาชาติของยูซีไอ และสามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ตัดสินนานาชาติได้ทั่วโลกตามที่ยูซีไอแต่งตั้ง
S05
 “การที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้จัดการอบรมผู้ตัดสินกีฬาจักรยานอาชีพประเภทถนน ระดับนานาชาติ  หรือ Elite Road National Commissaire Course ในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นประโยชน์สูงสุดแก่วงการกีฬาจักรยานไทย ตามแผนยุทธศาสตร์ของสมาคมฯ ซึ่งมีการพัฒนานักกีฬาให้ก้าวไปสู่ความเป็นเลิศ และการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ จนกระทั่งก้าวไปสู่ระดับนานาชาติอย่างเป็นระบบตามขั้นตอน ดังเจตนารมณ์ในการบริหารงานที่ว่า มุ่งมั่นพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ และต่อยอดไปสู่กีฬาอาชีพ เราจะก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย” พลเอกเดชา กล่าวในตอนท้าย.
S07