“สองล้อ” เดินหน้าต่อส่งเสือภูเขาเก็บแต้ม อลป. ส่วนประเภทถนนแข่งที่จีนเพื่อรักษาอันดับโลก

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูถัมภ์ เปิดเผยว่า หลังจากทัพนักกีฬาจักรยานเสร็จสิ้นการแข่งขันในมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน สมาคมกีฬาจักรยานฯ ก็เดินหน้าทำงานกันอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดพัก โดยนักกีฬาประเภทเสือภูเขาเก็บตัวต่ออยู่ที่จังหวัดระยอง เพื่อเตรียมไปแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย 2023 ระหว่างวันที่ 26-29 ตุลาคม ที่เมืองเคราร่า ประเทศอินเดีย ซึ่งสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) กำหนดไว้ในระบบคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ว่าชาติที่คว้าเหรียญทองในการแข่งขันจักรยานครอสคันทรี่ชิงแชมป์เอเชียทั้งในประเภทชายและหญิง จะได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส ทันที 1 ที่นั่งโดยอัตโนมัติ

พลเอกเดชา กล่าวว่า นอกจากนั้น ก็จะส่งนักกีฬาจักรยานเสือภูเขาไปแข่งขันจักรยานเสือภูเขา อิลิมิเนเตอร์ชิงแชมป์โลก 2023 หรือ “2023 Mountain Bike Eliminator World Championships” ที่เมืองปาลังการายา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจากเดิมกำหนดว่าจะแข่งขันในวันที่ 14-15 ตุลาคมนี้ แต่ทางเจ้าภาพได้เลื่อนการแข่งขันออกไปเป็นวันที่ 11-12 พฤศจิกายน โดยทางประเทศอินโดนีเซียได้ส่งหนังสือมาเชิญเนื่องจาก 2 นักปั่นไทย “เบส” นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ และ “พลอย” น.ส.วรินทร เพ็ชรประพันธ์ ทำผลงานได้โดดเด่นในการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาอิลิมิเนเตอร์รายการ “ยูซีไอ เมาเท่นไบค์ อิลิมิเนชั่น เวิลด์ คัพ 2022” ที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ส่งนักปั่นไทยไปชิงชัยเมื่อปีที่แล้ว

“เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า การแข่งขันอิลิมิเนเตอร์ชิงแชมป์โลก 2023 เป็นหนึ่งในรายการชิงแชมป์โลกของ ยูซีไอ ถึงแม้ว่าจะเป็นรายการที่ไม่มีบรรจุในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน แต่ก็มีความสำคัญในแง่ของคะแนนสะสมคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่สามารถนำเอาคะแนนสะสมจากการแข่งขันอิลิมิเนเตอร์เข้าไปรวมกับคะแนนสะสมที่นักปั่นทำได้ในรายการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาครอสคันทรี่รายการอื่น ๆ ขณะเดียวกันก็จะส่งนักปั่นอีก 2 คน ได้แก่ “โตมร” นายพูนศิริ ศิริมงคล กับ น.ส.บุสริน การะมีแน ซึ่งเป็นนักปั่นที่มีความโดดเด่นในการแข่งขันแบบอิลิมิเนเตอร์เข้าร่วมแข่งขันด้วยเพื่อเพิ่มโอกาสในการเก็บคะแนนสะสมโอลิมปิกเกมส์

นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ทีมจักรยานเสือภูเขาจะต้องมีการผ่าตัดกันใหม่เพื่อปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ จากการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ล่าสุด ตนได้มอบหมายให้ “โค้ชบาส” พ.อ.อ.ภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์ ได้นำเอาวิทยาศาสตร์การกีฬาไปใช้กับนักปั่นเสือภูเขา โดยไปฝังตัวอยู่กันนักกีฬาพร้อมวิเคราะห์ข้อมูลเป็นรายบุคคล ซึ่งก็ทราบว่านักกีฬาแต่ละคนมีความทนทานของร่างกายต่างกัน ดังนั้นการฝึกซ้อมต้องออกโปรแกรมการฝึกให้เหมาะสม หรือนักกีฬาชาย กับนักกีฬาหญิงมีความแข็งแกร่งต่างกัน ก็ต้องแยกโปรแกรมฝึกซ้อม หากซ้อมรวมกันใช้โปรแกรมเดียวกันมันจะไม่เกิดประโยชน์ โค้ชต้องรู้ศักยภาพของนักกีฬาแต่ละคน รวมทั้งต้องใช้จิตวิทยาและหลักโภชนาการเข้ามาเสริมด้วย

ด้าน จ.อ.เสรี เรืองศิริ หัวหน้าผู้ฝึกสอนเสือภูเขาทีมชาติไทย เปิดเผยว่า สำหรับการแข่งขันจักรยานเสอืภูเขาชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศอินเดีย จะส่งนักกีฬาแข่งขัน 4 รายการ ประกอบด้วย ครอสคันทรี่ทีมรีเลย์, ครอสคันทรี่บุคคล, ดาวน์ฮิล และอิลิมิเนเตอร์ โดยมีนักกีฬาลงแข่งขันแต่ละรายการดังนี้ ครอสคันทรี่ทีมรีเลย์ นักกีฬา 5 คนประกอบด้วย “โดด” ส.อ.กีรติ สุขประสาท (ประชาชนชาย), “ไก่” ส.อ.หญิง ศุภักษร นันตะนะ (ประชาชนหญิง), “เฟรม” อส.ทพ.พลฉัตร นาคทองคำ กับ “โตมร” นายพูนศิริ ศิริมงคล (อายุไม่เกิน 23 ปีชาย) และ “ปาล์ม” นายกมลฐชา อินทร์ทอง (เยาวชนชาย) / ดาวน์ฮิล นักกีฬา 2 คน ประกอบด้วย รุ่นประชาชนชาย “เบส” นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์, รุ่นประชาชนหญิง “เพ็ชร์” จ.ท.วิภาวี ดีคาบาเลส

ครอสคันทรี่บุคคล นักกีฬา 5 คน ประกอบด้วย รุ่นประชาชนชาย ส.อ.กีรติ สุขประสาท, รุ่นประชาชนหญิง ส.อ.หญิง ศุภักษร นันตะนะ, รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย อส.ทพ.พลฉัตร นาคทองคำ และ นายพูนศิริ ศิริมงคล, รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง “นันท์” น.ส.ยลธนันท์ พลกล้า, รุ่นเยาวชนชาย นายกมลฐชา อินทร์ทอง / อิลิมิเนเตอร์ นักกีฬา 8 คน ประกอบด้วย รุ่นประชาชนชาย นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์, รุ่นประชาชนหญิง น.ส.วรินทร เพ็ชรประพันธ์, ส.อ.หญิง ศุภักษร นันตะนะ, จ.ท.วิภาวี ดีคาบาเลส, รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย อส.ทพ.พลฉัตร นาคทองคำ และ นายพูนศิริ ศิริมงคล, รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง น.ส.ยลธนันท์ พลกล้า, รุ่นเยาวชนชาย นายกมลฐชา อินทร์ทอง

นอกจากนี้ พลเอกเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประเภทถนนถึงแม้ว่าสมาคมกีฬาจักรยานฯ จะได้โควตาโอลิมปิกเกมส์ 2024 มาแล้ว 3 ที่นั่ง จากประเภทหญิง 2 ที่นั่ง แบ่งเป็นรายการโรดเรซ 1 ที่นั่ง และไทม์ไทรอัล 1 ที่นั่ง, ประเภทถนนชาย 1 ที่นั่ง ในรายการโรดเรซ แต่เราจะประมาทไม่ได้ยังต้องส่งนักกีฬาไปแข่งขันรายการนานาชาติเก็บคะแนนสะสมโอลิมปิกเกมส์เพิ่ม เพื่อรักษาอันดับโลกเอาไว้ ก่อนจะมีการตัดโควตาไป “ปารีสเกมส์” ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ โดยประเภททีมหญิงจะไปแข่งขันรายการ “ทัวร์ ออฟ กว่างซี” ประเทศจีน ในวันที่ 17 ตุลาคม ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับ WWT หรือ Women World Tour มีคะแนนสะสมสูงมาก แต่แข่งแบบ One Day Race วันเดียวจบ ขณะที่นักกีฬาชายจะไปแข่งขันรายการ “ทรานส์-ฮิมาลายา ไซคลิง เรซ” ระหว่างวันที่ 14-17 ตุลาคม ที่ทิเบต ประเทศจีน เป็นการแข่งขันระดับ 2.2

พลเอกเดชา กล่าวเสริมอีกว่า สำหรับนักกีฬาหญิงที่จะไปแข่งขันรายการ “ทัวร์ ออฟ กว่างซี” ประกอบด้วย “บีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์, “จันทร์” พ.ต.หญิง จันทร์เพ็ง นนทะสิน, “แพร” ส.อ.หญิง เพชรดารินทร์ สมราช, “บีม” ส.ต.หญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ โดยมี มร.หลี่ เสี่ยว เล่อ ผู้ฝึกสอนชาวจีน และ “โค้ชนพ” ร.ต.อ.อดิศักดิ์ วรรณศรี หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวไทย ร่วมกันควบคุมทีมไปแข่งขัน ส่วนนักกีฬาชายที่จะไปแข่งขันรายการ “ทรานส์-ฮิมาลายา ไซคลิง เรซ” ประกอบด้วย “ดอย” ร.ต.ท.นวุติ ลี้พงษ์อยู่, “เฟรม” ส.ต.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ, “เกมส์” นายนพชัย กล้าหาญ, “ออม” นายรัชชานนท์ เยาวรัตน์ โดยมี ร.ต.อ.ณัฐพล จีบถาวรธาวิต เป็นผู้ฝึกสอน, จ.ส.อ.รัฐพงศ์ เรือนเมา เป็นนักกายภาพบำบัด ก็ต้องขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทยทุกคนช่วยส่งกำลังใจเชียร์นักปั่นไทยให้เก็บคะแนนโอลิมปิกให้ได้มากที่สุด และเพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยต่อไป.