ศึกสองล้อถนน-เสือภูเขา ชิงแชปม์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ สนาม 2 ที่จันทบุรี มีข่าวดีสำหรับนักปั่นรุ่นใหญ่ “พลเอกเดชา” เผยสมาคมกีฬาจักรยานฯ อาจพิจารณานักกีฬาที่ทำผลงานและสถิติดี ติดทีมชาติไทยไปแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย รุ่นมาสเตอร์ ที่มาเลเซีย ส่วนเส้นทางการชิงชัยทุกประเภท ฝ่ายเทคนิคได้วางเส้นทางใหม่สุดท้ายทาย ขณะที่ “สมศักดิ์ พะเนียงทอง” นายกเทศมนตรีตำบลทับไทร ยืนยันกิจกรรม “ปั่นเพื่อสุขภาพ” คึกคัก มีประชาชนสนใจลงทะเบียนล่วงหน้าจำนวนมาก พร้อมทั้งพี่น้องชาวกัมพูชา ข้ามมาร่วมปั่นด้วย เป็นการกระชับความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ โดยมี “ดร.สาธิต ปิตุเตชะ” รมช.สาธารณสุข เป็นประธาน ด้าน “ไทยพีบีเอส” ถ่ายทอดสดประเภทดาวน์ฮิล ทางช่องหลักของสถานี รวมทั้งไลฟ์สดประเภทโร้ดเรซ ผ่านทางเฟสบุ๊ก และ ยูทูบ วันละ 2 ชั่วโมง
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ร่วมกับ จังหวัดจันทบุรี จัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” และ การแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขาชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2563 สนามที่ 2 ระหว่างวันที่ 28 ก.พ. – 1 มี.ค. ที่อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี รวมทั้งกิจกรรมขี่จักรยาน “ปั่นเพื่อสุขภาพ” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กับ สมาคมกีฬาจักรยานฯ และเทศบาลตำบลทับไทร ในวันที่ 28 ก.พ. ล่าสุด นายสมศักดิ์ พะเนียงทอง นายกเทศมนตรีตำบลทับไทร ได้แจ้งว่ากิจกรรมขี่จักรยาน “ปั่นเพื่อสุขภาพ” มีความคึกคักเป็นอย่างมาก หลังจากที่ทางจังหวัดได้ทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ มีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนล่วงหน้าหลายร้อยคน และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 2,000 คน
พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับเส้นทางการแข่งขันในสนามที่ 2 นี้ ทางฝ่ายเทคนิคของสมาคมฯ ได้ไปสำรวจและวางเส้นทางแข่งขันใหม่ทุกประเภท ซึ่งจะมีความท้าทายทุกเส้นทาง เริ่มจากจักรยานถนน ประเภทไทม์ไทรอัล แข่งขันในวันที่ 28 ก.พ. เริ่มปล่อยตัวเวลา 08.00 น. จากบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอโป่งน้ำร้อน บนถนนหมายเลข 317 มุ่งหน้าไปทางอำเภอสอยดาว ไปกลับรถที่ทางเข้าหมู่บ้านเขาโสม แล้วกลับมายังหน้าที่ว่าการอำเภอโป่งน้ำร้อน ระยะทางรอบละ 10 กม. ส่วนประเภทโร้ดเรซ แข่งขันในวันที่ 29 ก.พ. เริ่มปล่อยตัวเวลา 08.00 น. จากบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านดงจิก บนถนนหมายเลข 3210 มุ่งหน้าไปยังอ่างเก็บน้ำคลองพระพุทธ-เลี้ยวซ้ายที่แยกเรือนพริกไทยอ่อน (ซอยดงจิก 11 รอบอ่างก็บน้ำ 2)-ต่อไปยังหมู่บ้านห้าร้อย-ออกจากสามแยกหมู่บ้านห้าร้อย-เลี้ยวขวาไปเข้าเส้นชัยที่หน้าโรงเรียนบ้านดงจิก ระยะทางรอบละ 8 กม. โดยแต่ละรุ่นจะปั่นจำนวนรอบไม่เท่ากัน ฝ่ายเทคนิคสมาคมฯ จะเป็นผู้กำหนดและจะแจ้งให้ทราบภายหลัง
นายกสมาคมกีฬาจักรยาน กล่าวต่อไปว่า สำหรับจักรยานเสือภูเขา ประเภทครอสคันทรี่ แข่งขันในวันที่ 1 มี.ค. ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำคลองพระพุทธ เริ่มปล่อยตัวเวลา 08.30 น. จากจุดชมวิวอ่างเก็บน้ำคลองพระพุทธ ลงมาที่สันเขื่อน แล้วปั่นขึ้นเขาคลองพระพุทธ วนกลับมาที่จุดชมวิว รุ่น A ระยะทางรอบละ 4.7 กม., รุ่น B ระยะทางรอบละ 4.6 กม. และรุ่น C ระยะทางรอบละ 3.6 กม. ส่วนประเภทดาวน์ฮิล เริ่มแข่งขันตั้งแต่เวลา 12.00 น. ปล่อยตัวจากยอดเขาคลองพระพุทธ ลงมายังบริเวณทางน้ำล้น หรือ สปิลเวย์ (Spillway) ของอ่างเก็บน้ำคลองพระพุทธ โดยสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส จะทำการถ่ายทอดสดให้ชม 2 วันด้วยกัน คือ วันเสาร์ที่ 29 ก.พ. ถ่ายทอดสดแข่งขันจักรยานถนน ประเภทโร้ดเรซ ผ่านทางเฟสบุ๊กไลฟ์ และ ยูทูบ เวลา 08.00-10.00 น. กับ วันอาทิตย์ที่ 1 มี.ค. ถ่ายทอดสดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขา ประเภทดาวน์ฮิล ผ่านทางช่องหลักของสถานี กดหมายเลข 3 ตั้งแต่ 14.00-16.00 น.
“ซูเปอร์หมึก คึกกว่า 5 G” กล่าวอีกว่า ในการแข่งขันสนามที่ 1 ที่จังหวัดชียงราย สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้คัดเลือกนักกีฬาจักรยานถนนรุ่นใหญ่ หรือ รุ่นมาสเตอร์ เป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปแข่งขันจักรยานถนนชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่เมืองนิไล ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 17-22 มี.ค. เอาไว้จำนวน 5 คน โดยแบ่งตามรุ่นอายุ ดังนี้ รุ่นมาสเตอร์ อายุ 35 ปี นายณัฐวุฒิ ชวนปัญโญ และ นายธรรมรัตน์ ถวิล, รุ่นมาสเตอร์ อายุ 40-44 ปี นายธเนศ พิทยาธรเลิศ และ นายพรชัย ดวงสมคิด, รุ่นมาสเตอร์ อายุ 50 ปีขึ้นไป นายวรพจน์ อติการบดี อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ จะพิจารณาคัดเลือกนักกีฬาเพิ่มในแต่ละรุ่น แต่ต้องดูจากผลงานและสถิติที่ทำได้ เทียบกับนักกีฬาที่ผ่านการคัดเลือกไปแล้วด้วย ส่วนจะเพิ่มจำนวนกี่คนนั้น ขึ้นอยู่กับผลงานของแต่ละคน
ด้าน นายสมศักดิ์ พะเนียงทอง นายกเทศมนตรีตำบลทับไทร เปิดเผยว่า ในส่วนของกิจกรรมขี่จักรยาน “ปั่นเพื่อสุขภาพ” มีขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 28 ก.พ. เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป และปล่อยตัวนักปั่นเวลา 15.00 น. โดยได้รับเกียรติจาก จาก ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดจันทบุรี รวมทั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 3 ท่าน ประกอบด้วย นางสาวปาณี นาคะนาท, นายพงษ์พัฒน์ วงศ์ตระกูล และ นายอลงกรณ์ แอคะรัจน์ จะมาร่วมปั่นจักรยานด้วย สำหรับเส้นทางการปั่นจะเริ่มจากหน้าที่ว่าการอำเภอโป่งน้ำร้อน บนถนนหมายเลข 317 ไปจนถึงหน้า ชาเทรียม กอล์ฟ รีสอร์ท สอยดาว จันทบุรี แล้วกลับมาเข้าเส้นชัยบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอโป่งน้ำร้อน ระยะทางไป-กลับ 10 กม. ส่วนนักปั่นที่มีพละกำลังมาก และเป็นนักป่ะนมืออาชีพ จะให้ปั่นวนในชาเทรียม กอล์ฟ รีสอร์ทฯ ก่อน แล้วจึงวนกลับมายังหน้าที่ว่าการอำเภอโป่งน้ำร้อน ระยะทางไป-กลับ 25 กม.
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในทุกปีที่จังหวัดจันทบุรี ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมขี่จักรยาน “ปั่นเพื่อสุขภาพ” ก็จะเชิญพี่น้องจากประเทศกัมพูชา มาร่วมปั่นด้วย เรียกว่าเป็นการปั่นเพื่อสุขภาพสองแผ่นดิน โดยทางจังหวัดได้ส่งหนังสือเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดพระตะบอง, ผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน, นายอำเภอก็อมเรียง และ นายอำเภอศาลาเกรา ให้มาร่วมในพิธี พร้อมกับขี่จักรยานร่วมกัน และจะมีประชาชนกัมพูชามาร่วมด้วยราว 200-300 คน เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ โดยใช้กีฬาจักรยานเป็นสื่อกลาง สำหรับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสอบถามรายละเอียดได้ที่เทศบาลตำบลทับไทร โทร.0-3944-7317 ถึง 9
ทั้งนี้ นักกีฬาที่จะสมัครเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานถนน เฉพาะประเภทไทม์ไทรอัล เข้าไปสมัครได้ที่เว็บไซต์ www.thaicycling.or.th ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป (ไม่รับสมัครที่หน้างาน) ส่วนประเภทโร้ดเรซ สามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ หรือสมัครที่หน้างานได้จนถึงเวลา 08.00 น. ของวันเสาร์ที่ 29 ก.พ. สำหรับเสือภูเขา ทั้งครอสคันทรี่ และดาวน์ฮิล สมัครผ่านเว็บไซต์ หรือสมัครที่หน้างานได้จนถึงเวลา 08.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 1 มี.ค. ขณะที่กิจกรรมขี่จักรยาน “ปั่นเพื่อสุขภาพ” เปิดให้ลงทะเบียน ที่จุดรับสมัครตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันศุกร์ที่ 28 ก.พ.
อนึ่ง นักกีฬาที่สมัครในประเภทแข่งขัน จะต้องทำบัตรอนุญาตแข่งขัน (License) ประจำปี 2563 ส่วนประเภทท่องเที่ยว หากมีความประสงค์จะทำบัตรก็สามารถทำได้เช่นกัน (ไม่บังคับ) โดยเข้าไปลงทะเบียนทำบัตรได้ที่ www.thaicycling.or.th หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ สมาคมกีฬาจักรยานฯ โทร.0-2719-3340-2.