ปั่นในบ้าน ต้านโควิด เฟส 3 ประเดิมสุดคึกคัก ยอดผู้ชมทางเฟซบุ๊กไลฟ์พุ่งกระฉูดเกือบ 2 หมื่นวิว

“ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” เฟส 3 นัดแรกสุดคึกคัก ยอดวิวผู้ชมผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ของ “ไทยพีบีเอส” เกือบ 20,000 วิว โดยมีแฟนจักรยานทางบ้านเข้าร่วมกิจกรรมมากมาย รวมทั้งนักปั่นจากต่างประเทศมาร่วมชิงชัยด้วย ด้าน “เสธ.หมึก” เผยหากสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปในทางที่ดี สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะกลับมาจัดแข่งขันรายการต่าง ๆ เหมือนเดิม ประเดิมด้วยจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 3-4 ปลายเดือน พ.ค. นี้ ต่อด้วยประเภทถนนและเสือภูเขา ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 2 ระหว่างวันที่ 2-4 ก.ค. ที่จังหวัดมุกดาหาร

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ สถานีโทรทัซน์ไทยพีบีเอส จัดกิจกรรมขี่จักรยานออนไลน์ “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” เฟสที่ 3 เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โดยมี “คิว” พีรพงศ์ ลาดเงิน นักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย และ “น้องสอง” รวิรัฐ ศรีโสภา นักปั่นสาวสวยจากทีมเวนน์ ไซคลิง เป็นผู้นำปั่นในรายการ และมี “โค้ชตั้ม” พันจ่าอากาศเอก วิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอนจักรยานประเภทถนนทีมชาติไทย ร่วมเป็นผู้บรรยาย

พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับนักปั่นทางบ้าน และนักกีฬาทีมชาติไทยซึ่งร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ นักปั่นชายลงแข่งในลูป WATOPIA FIGUE 8 คลาส A ระยะทาง 30.2 กม. ส่วนนักปั่นหญิงลงแข่งในลูป VALCANO CIRCUIT คลาส C ปั่น 6 รอบ ระยะทาง 27.4 กม. โดยได้รับความสนใจจากแฟนจักรยานทางบ้านเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีนักปั่นชาวต่างชาติ เช่น อิตาลี, แอฟริกาใต้, ญี่ปุ่น, จีน, สวีเดน, เบลเยี่ยม ร่วมชิงชัย นอกจากนี้ก็มีนักปั่นทีมชาติไทยเข้าร่วมกิจกรรมด้วย อาทิ สิบโท สราวุฒิ สิริรณชัย, “บีซ” ร้อยโทหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์, “แพร” สิบตรีหญิง เพชรดารินทร์ สมราช เป็นต้น

สำหรับผลการแข่งขันปรากฏว่า ประเภทชาย นายณัฐพล จำชาติ ได้อันดับที่ 2 เวลา 39.53 นาที ส่วน “คิว” พีรพงศ์ ลาดเงิน ได้อันดับ 4 เวลา 39.54 นาที ขณะที่อันดับ 1 เป็นของ เกร็ก ไฟร์สัน จากอิตาลี เวลา 39.52 นาที ส่วนประเภทหญิง สิบตรีหญิง เพชรดารินทร์ สมราช ได้อันดับที่ 3 เวลา 41.00 นาที อันดับ 1 เป็นของ ลี โจนส์ จากสหราชอาณาจักร เวลา 40.57 นาที และอันดับ 2 ฟาเบียง ลีย์เลฟเวิร์ก จากอิตาลี เวลา 40.57 นาที 

หลังการแข่งขัน พลเอกเดชา กล่าวว่า กิจกรรม “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” ครั้งนี้มีความคึกคักอย่างมาก มีนักปั่นทางบ้านให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยอดผู้ชมที่ชมผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ยอดพุ่งกระฉูดเกือบ 20,000 วิว ยังไม่รวมที่ชมผ่านยูทูบ และชมผ่านการถ่ายทอดสดทางช่องหลัก (หมายเลข 3) แสดงให้เห็นว่ากระแสความนิยมการปั่นจักรยานออนไลน์มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ประชาชนมีความเสี่ยงสูงที่จะไปออกกำลังกายนอกบ้าน ดังนั้น กิจกรรม “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด

พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากช่วงนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ยังไม่ดีเท่าที่ควร สมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงไม่สามารถจัดการแข่งขันจักรยานรายการต่าง ๆ ตามกำหนดเดิม รวมทั้งนักกีฬาทีมชาติก็ยังเข้าแค้มป์เก็บตัวไม่ได้ ทางสตาฟฟ์โค้ชจึงให้โปรแกรมการฝึกซ้อมอยู่ที่บ้าน และซ้อมผ่านแอปพลิเคชัน ในโครงการ “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” หากสถานการณ์คลี่คลายลงก็จะกลับมาจัดการแข่งขันกันอีกครั้ง คาดว่าจะประเดิมด้วยการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 3-4 ปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ต่อด้วยการแข่งขันจักรยานประเภทถนนและเสือภูเขา ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 2 ระหว่างวันที่ 2-4 กรกฎาคม ที่จังหวัดมุกดาหาร

นายกสองล้อไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้จัดประชุมเพื่อพิจารณาถึงสถานการณ์กันแบบวันต่อวัน รวมทั้งรอฟังมาตรการใหม่จากรัฐบาล หลังวันที่ 14 พฤษภาคม และจะต้องปฏิบัติตามมาตรการของจังหวัดที่เป็นเจ้าภาพร่วมอีกด้วย แต่ที่ผ่านสมาคมฯ จัดการแข่งขันภายใต้คู่มือการป้องกันการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านการเห็นชอบจาก ศบค. อย่างเคร่งครัด ขณะที่การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2021” เลื่อนไปจัดระหว่างวันที่ 16-25 กันยายน เส้นทางในจังหวัดสงขลา, สตูล, นครศรีธรรมราช, ตรัง, พัทุลง และ ปัตตานี

ด้าน “โค้ชตั้ม” พ.อ.อ.วิสุทธิ์ กล่าวว่า สำหรับกิจกรรม “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม ส่วนจะเป็นเส้นทางปั่นในลูปใดนั้น ทางฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬาจักรยานฯ จะแจ้งให้ทราบในเร็ว ๆ นี้ โดยสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th และที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Thaicycling Association หรือมีข้อสงสัยประการใดสามารถส่งคำถามมาที่ Inbox หรือ “กล่องข้อความ” ในเฟซบุ๊ก.