นักปั้นดาวน์ฮิลทีมชาติไทยทำผลงานเจ๋ง มีลุ้นทองเสือภูเขาเอเชียทั้งชายและหญิง

นักปั่นเสือภูเขาทีมชาติไทยมีลุ้นคว้าแชมป์ดาวน์ฮิล ในศึกเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 27 ที่เกาหลีใต้ โดยในรุ่นประชาชนชาย “เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์” ทำเวลารอบคัดเลือกมาเป็นอันดับ 1 และ “ชินพัฒน์ สุขจรรยา” ทำเวลาเป็นอันดับ 3 ขณะที่รุ่นประชาชนหญิง…

นักปั้นดาวน์ฮิลทีมชาติไทยทำผลงานเจ๋ง มีลุ้นทองเสือภูเขาเอเชียทั้งชายและหญิง

นักปั้นดาวน์ฮิลทีมชาติไทยทำผลงานเจ๋ง มีลุ้นทองเสือภูเขาเอเชียทั้งชายและหญิง

นักปั่นเสือภูเขาทีมชาติไทยมีลุ้นคว้าแชมป์ดาวน์ฮิล ในศึกเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 27 ที่เกาหลีใต้ โดยในรุ่นประชาชนชาย “เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์” ทำเวลารอบคัดเลือกมาเป็นอันดับ 1 และ “ชินพัฒน์ สุขจรรยา” ทำเวลาเป็นอันดับ 3 ขณะที่รุ่นประชาชนหญิง “ธิดา ปัญญาวัน” ทำเวลารอบคัดเลือกมาเป็นอันดับ 1 เฉือนชนะรุ่นพี่ “จ.ท.วิภาวี ดีคาบาเลส” ไปอย่างหวุดหวิด มีโอกาสคว้าเหรียญรางวัลมาครองทั้ง 4 คน ด้านครอสคันทรี่ ทีมรีเลย์ ทำดีที่สุดแค่อันดับ 4 “ส.อ.กีรติ สุขประสาท” ซึ่งออกตัวเป็นคนสุดท้าย โชคไม่ดีรถคู่ใจยางรั่ว พลาดเหรียญรางวัลไปอย่างน่าเสียดาย
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ส่งนักกีฬาเสือภูเขาไปแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 19-23 ตุลาคม ที่เมืองซุนชอน ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นรายการใหญ่ระดับคอนติเนนตัล แชมเปี้ยนชิปส์ มีคะแนนสะสมสูงให้นักกีฬาเก็บคะแนนเพื่อคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ได้รับรายงานจาก “โค้ชปู” นาวาอากาศตรี สุภัทร ศรีไสว หัวหน้าผู้ฝึกสอนและผู้ควบคุมทีมถึงการแข่งขันวันแรก ซึ่งเป็นการแข่งขันรายการดาวน์ฮิล รอบทดสอบเวลา หรือรอบจัดอันดับ และการแข่งขันรายการ ครอสคันทรี่ ทีมรีเลย์ รอบชิงชนะเลิศ
A02
 พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันรายการดาวน์ฮิล รอบทดสอบเวลา รุ่นประชาชนชาย ปรากฏว่า “เบส” นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ทำเวลามาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 2.19.23 นาที เฉือนชนะ เช็ง ชาน ชาง นักปั่นไต้หวันเจ้าของแชมป์เอเชีย 2 สมัยไปอย่างหวุดหวิดที่ทำเวลามา 2.19.68 นาที โดย เมธาสิทธิ์ ชนะไปแค่ 0.450 วินาที ส่วนที่ 3 เป็นของ “ตั้ง” นานชินพัฒน์ สุขจรรยา เวลา2.26.55 นาที ขณะที่รุ่นประชาชนหญิง ปรากฏว่า น.ส.ธิดา ปัญญาวัน ทำเวลามาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 2.58.28 นาที และ “เพ็ชร์” จ.ท.วิภาวี ดีคาบาเลส เข้ามาเป็นอันดับที่ 2 เวลา 2.59.66 นาที และที่ 3 ริสก้า อาเมเลีย ออกุสติน่า นักปั่นจากอินโดนีเซีย เวลา 3.08.97 นาที 
“เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า การที่นักปั่นไทยสามารถทำเวลาเข้ามาติด 1 ใน 3 ในรอบจัดอันดับ ทั้งชายและหญิง ถือว่าเป็นโอกาสดีที่นักปั่นไทยมีสิทธิ์ที่จะคว้าเหรียญรางวัลได้มาถึง 2 เหรียญ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญทอง, เหรียญเงิน หรือเหรียญทองแดง อย่างไรก็ตาม เราจะประมาทไม่ได้ โดยเฉพาะรุ่นประชาชนชาย นักปั่นไต้หวันคู่แข่งสำคัญของนักปั่นไทยเขามีดีกรีเป็นถึงแชมป์เอเชีย 2 สมัย แต่ เมธาสิทธิ์ เองก็เป็นแชมป์เอเชียมาเช่นเดียวกัน หากไม่เกิดอุบัติเหตุระหว่างแข่งขันก็น่าจะสู้กันได้อย่างสนุก โดยมี ชินพัฒน์ เป็นตัวสอดแทรกในการชิงเหรียญรางวัล ส่วนรุ่นประชาชนหญิง ก็มีลุ้นทั้ง วิภาวี และ ธิดา แต่ก็จะประมาทคู่แข่งจากอินโดนีเซียไม่ได้เช่นกัน แม้ว่าเวลาของเขาจะห่างจากเรา 10 วินาที แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้สำหรับการแข่งขัน ตนจึงได้กำชับนักปั่นไทยทุกคนว่าขอให้มีสติ และสู้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องไปกลัวใคร สำหรับการแข่งขันดาวน์ฮิล รอบชิงชนะเลิศ จะชิงชัยในวันที่ 20 ตุลาคม เวลา 14.00 น. (ตรงกับเวลา 12.00 น. ของประเทศไทย)
A05
 พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า ด้านการแข่งขันครอสคันทรี่ ทีมรีเลย์ รอบชิงชนะเลิศ ระยะทาง 20 กม. ทีมชาติไทยส่งนักปั่น 5 คน ลงสนาม ประกอบด้วย “โตมร” นายพูนศิริ ศิริมงคล, “ปาล์ม” นายกมลฐชา อินทร์ทอง, “ไก่” ส.อ.หญิง ศุภักษร นันตะนะ, “เฟรม” นายพลฉัตร นาคทองคำ, “โดด” ส.อ.กีรติ สุขประสาท เป็นที่น่าเสียดายว่า กีรติ ซึ่งเป็นคนสุดท้าย โชคไม่ดีเพราะรถจักรยานคู่ใจเกิดยางรั่ว ทำให้ทีมไทยได้เพียงอันดับที่ 4 ด้วยเวลา 1.38.35 ชั่วโมง พลาดเหรียญรางวัลไปอย่างน่าเสียดาย ส่วนแชมป์ ได้แก่ ทีมคาซัคสถาน เวลา 1.27.30 ชั่วโมง, ที่ 2 ทีมญี่ปุ่น เวลา 1.29.37 ชั่วโมง, ที่ 3 ทีมมาเลเซีย เวลา 1.33.40 ชั่วโมง
 “การแข่งขันเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย ยังมีอีกหลายรายการ ทั้งครอสครันทรี่ ชาย-หญิง และ อิลิมิเนเตอร์ ชาย-หญิง ต้องขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทยช่วยส่งกำลังใจไปเชียร์นักปั่นลูกหลานไทยให้คว้าเหรียญรางวัลกลับมาฝากคนไทยให้ได้ และเพื่อเป็นการเก็บคะแนนสะสมคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส ถึงแม้ว่าจะเป็นงานที่หนักแต่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ก็ต้องเดินหน้าพัฒนานักกีฬาอย่างต่อเนื่อง เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทยเป็นสำคัญ” พลเอกเดชา กล่าวในตอนท้าย.