“สองล้อ” ไม่เคยหยุดพัฒนา ส่งนักกีฬาไปแข่งนานาชาติ ถนนที่สิงคโปร์และลู่ที่อินเดีย

 “สองล้อ” ไม่หยุดพัฒนาเดินหน้าส่งนักกีฬาไปแข่งขันระดับนานาชาติอีก 2 รายการ เริ่มจากจักรยานประเภทถนนรายการ “ตูร์ เดอ ฟรองซ์ พรูเดนเชี่ยล สิงคโปร์ ไครทีเรียม” ที่สิงคโปร์ วันที่ 30 ต.ค.นี้ ซึ่งมีนักปั่นดีกรีแชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์…

“สองล้อ” ไม่เคยหยุดพัฒนา ส่งนักกีฬาไปแข่งนานาชาติ ถนนที่สิงคโปร์และลู่ที่อินเดีย

“สองล้อ” ไม่เคยหยุดพัฒนา ส่งนักกีฬาไปแข่งนานาชาติ ถนนที่สิงคโปร์และลู่ที่อินเดีย

 “สองล้อ” ไม่หยุดพัฒนาเดินหน้าส่งนักกีฬาไปแข่งขันระดับนานาชาติอีก 2 รายการ เริ่มจากจักรยานประเภทถนนรายการ “ตูร์ เดอ ฟรองซ์ พรูเดนเชี่ยล สิงคโปร์ ไครทีเรียม” ที่สิงคโปร์ วันที่ 30 ต.ค.นี้ ซึ่งมีนักปั่นดีกรีแชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์ มาร่วมชิงชัยหลายคน ต่อด้วยการแข่งขันจักรยานประเภทลู่นานาชาติ “แทร็ก เอเชีย คัพ 2022” ที่อินเดีย วันที่ 25-27 พ.ย.65 เพื่อเป็นการเตรียมนักกีฬาเอาไว้สู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา และเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จีน ในปีหน้า
S1พลเอกเดชา_เหมกระศรี
 “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ส่งนักกีฬาทีมชาติไทยทั้งประเภทถนน, เสือภูเขา, บีเอ็มเอ็กซ์ และลู่ รวมทั้งทีมอาชีพ “ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม” เดินทางไปแข่งขันระดับนานาชาติในช่วงเดือนสิงหาคม ถึงเดือนตุลาคม เพื่อเป้าหมายในการเก็บคะแนนสะสมคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อีกทั้งเป็นการเตรียมทีมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา และกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ในปีหน้า ล่าสุด สมาคมกีฬาจักรยานฯ เตรียมส่งนักกีฬาเดินทางไปแข่งขันระดับนานาชาติอีก 2 รายการ ที่ประเทศสิงคโปร์ และประเทศอินเดีย
S4
 พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับรายการเป็นการแข่งขันจักรยานประเภทถนนรายการ “ตูร์ เดอ ฟรองซ์ พรูเดนเชี่ยล สิงคโปร์ ไครทีเรียม” ที่ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 30 ตุลาคม ที่สนามแข่งรถยนต์สูตร 1 หรือ ฟอร์มูล่า วัน ซึ่งแข่งขันแบบไครทีเรียมจบภายในวันเดียว โดยสมาคมกีฬาจักรยานฯ ส่งนักกีฬาทีมอาชีพ “ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม” เดินทางไปแข่งขัน ประกอบด้วย “วุฒิ” ส.ท.สราวุฒิ สิริรณชัย, “ปาง” จ.อ.ธนาวุฒิ สนิกวาที, “มะตูม” พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง, “อาร์ม” นายวรุตม์ แปะกระโทก โดยมี “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท ที่เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจการอบรมผู้ฝึกสอนขั้นสูง UCI Coach Development Program Level 3: Diploma ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นผู้จัดการทีมและผู้ฝึกสอน, ร.ต.อ.ณัฐพล จีบถาวรธาวิต เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอน, นายอเนก ศาสตร์ทรัพย์ เป้นช่างประจำทีม
 “เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า การแข่งขันรายการ “ตูร์ เดอ ฟรองซ์ พรูเดนเชี่ยล สิงคโปร์ ไครทีเรียม” เป็นการแข่งขันรายการที่ลงทะเบียนกับสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ในระดับโปรไครทีเรียม ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นการเก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิกเกมส์ แต่ทางเจ้าภาพได้เชิญให้สมาคมกีฬาจักรยานฯ ส่งนักกีฬาไปร่วมการแข่งขัน เพราะเห็นผลงานจากที่นักปั่นไทยไปสร้างชื่อเสียงในรายการต่าง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นรายการใหญ่ที่มีนักปั่นระดับโปรที่เคยคว้าแชมป์รายการ “ตูร์ เดอ ฟรองซ์” ที่ประเทศฝรั่งเศสมาแข่งขันด้วย นำโดย โจนาส วิงการ์ด นักปั่นชาวเดนมาร์กจากทีมจัมโบ-วิสมา เจ้าของแชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์ 2022 คนล่าสุด และ คริสโตเฟอร์ ไคลฟ์ ฟรูม นักปั่นลูกครึ่งเคนยา-อังกฤษ จากทีมอิสราเอล พรีเมียร์ เทค แชมป์ตรู เดอ ฟรองซ์ 4 สมัย (ปี 2013, 2015, 2016, 2017) ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดีที่นักปั่นไทยจะได้ประลองฝีมือกับนักปั่นระดับโลก
พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า ส่วนรายการที่ 2 เป็นการแข่งขันจักรยานประเภทลู่นานาชาติ “แทร็ก เอเชีย คัพ 2022” ที่ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 25-27 พฤศจิกายน โดยทางเจ้าภาพได้ลงทะเบียนกับ ยูซีไอ ในระดับ C1 สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ส่งนักปั่นทีมชาติไทยไปร่วมแข่งขัน 4 คน ประกอบด้วย รุ่นประชาชนชาย 2 คน ส.ต.ทักษ์ แก้วน้อย และ ส.ต.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ ซึ่งจะลงแข่งขันรายการออมเนียมทั้ง 2 คน รุ่นเยาวชนชาย 2 คน นายธนวัฒน์ แสนตา แข่งขันรายการเปอร์ซูตบุคคล, นายนนทศักดิ์ รักษาศรี แข่งขันรายการพอยต์เรซ โดยมี ร.ต.อ.ณัฐพล จีบถาวรธาวิต เป็นผู้จัดการทีมและผู้ฝึกสอน 
S3
นายกสองล้อไทย เจ้าของฉายา “หมึกต้นแบบ” กล่าวเสริมว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ทำงานกันอย่างหนักตลอดทั้งปีไม่เคยหยุดนิ่ง ตามแผนยุทธศาสตร์ที่ได้วางเอาไว้โดยเน้นการพัฒนานักกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ และก้าวไปสู่อาชีพ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขอให้ภาครัฐช่วยดูแลเรื่องงบประมาณการส่งนักกีฬาไปแข่งขันต่างประเทศด้วย ในช่วงที่ผ่านมาสมาคมกีฬาจักรยานฯ ต้องช่วยเหลือตัวเองมาโดยตลอด แต่เราก็ต้องเดินหน้ากันต่อไป เนื่องจากสมาคมฯ จัดการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยมาตลอดทั้งปี ได้นักกีฬาที่เป็นแชมป์แต่ละสนามมาแล้ว ก็ต้องส่งไปแข่งขันในรายการที่สูงขึ้น เป็นการพัฒนาฝีมือและศักยภาพของนักกีฬา รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะสู้ศึกซีเกมส์ และเอเชี่ยนเกมส์ ในปีหน้าต่อไป.