“จาย” เดินหน้าล่าแต้มสู่ “ปารีสเกมส์” สร้างประวัตินักปั่นลู่คนแรกที่ไป อลป.

“จาย อังค์สุธาสาวิทย์” เดินหน้าล่าแต้มสะสมคัดเลือก “โอลิปิกเกมส์ 2024” ด้วยการแข่งขันศึกใหญ่จักรยานประเภทลู่รายการเนชั่นส์คัพ และลู่ชิงแชมป์โลก หากผลงานเป็นได้ตามเป้าหมายจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักปั่นประเภทลู่คนแรกของไทยที่ได้ไปโอลิมปิกเกมส์…

“จาย” เดินหน้าล่าแต้มสู่ “ปารีสเกมส์” สร้างประวัตินักปั่นลู่คนแรกที่ไป อลป.

“จาย” เดินหน้าล่าแต้มสู่ “ปารีสเกมส์” สร้างประวัตินักปั่นลู่คนแรกที่ไป อลป.

“จาย อังค์สุธาสาวิทย์” เดินหน้าล่าแต้มสะสมคัดเลือก “โอลิปิกเกมส์ 2024” ด้วยการแข่งขันศึกใหญ่จักรยานประเภทลู่รายการเนชั่นส์คัพ และลู่ชิงแชมป์โลก หากผลงานเป็นได้ตามเป้าหมายจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักปั่นประเภทลู่คนแรกของไทยที่ได้ไปโอลิมปิกเกมส์ ขณะที่นักปั่นประเภทถนนทั้งชายและหญิงก็ตระเวนแข่งขันรายการนานาชาติเพื่อเก็บคะแนนสะสมโอลิมปิกเช่นเดียวกัน รวมทั้งเตรียมชิงชัยในศึก “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023” เส้นทางจากภาคตะวันตกสู่ภาคตะวันออก และการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ จ.ระยอง 
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ เรียกนักปั่นทีมชาติไทยเข้าค่ายเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเตรียมแข่งขัน 2 มหกรรมกีฬาใหญ่ในปี 2566 ประกอบด้วย การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา ระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคม และกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 23 กันยายน - 8 ตุลาคม โดยมีการเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักปั่นทีมชาติไทยในแต่ละประเภทก็ตั้งใจฝึกซ้อมและมีพัฒนาการเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้
 
 พลเอกเดชา กล่าวว่า นอกเหนือจาก 2 มหกรรมสำคัญดังกล่าว นักปั่นทีมชาติไทยก็ยังจะต้องตระเวนแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมในการลุ้นโควต้าโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อีกทางหนึ่งด้วย โดยจะเริ่มประเดิมศักราชการคัดเลือกโอลิมปิก 2024 จาก “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักปั่นทีมชาติไทยที่เก็บตัวฝึกซ้อมระยะยาวอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) เมืองเอเกิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีกำหนดลงชิงชัยในการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ยูซีไอ เนชั่นส์ คัพ 2023 สนามที่ 1 ที่กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 23-26 กุมภาพันธ์ นี้
“จายจะลงแข่งขันรายการเนชั่นส์คัพ สนามที่ 1 ที่กรุงจาการ์ตา 2 รายการ คือ รายการคีริน แข่งขันวันที่ 25 กุมภาพันธ์ และรายการสปรินท์บุคคล แข่งขันวันที่ 26 กุมภาพันธ์ โดยจายตั้งเป้าหมายเบื้องต้นว่าในรายการคีรินจะต้องเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเป็นอย่างน้อย ซึ่งเป็นรายการที่จายถนัดที่สุดและคว้าเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ได้ที่สนามแข่งขันแห่งนี้ และหวังเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายในรายการสปรินท์บุคคล เพื่อเป็นการประเดิมทำคะแนนสะสมคัดเลือกโอลิมปิกประเภทลู่ให้ได้มากที่สุด และจากนั้นอีก 2 สัปดาห์ก็จะไปแข่งขันรายการเนชั่นส์คัพ 2023 สนามที่ 2 ที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ระหว่างวันที่ 14-17 มีนาคม และสนามที่ 3 ที่เมืองมิลตัน ประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ 20-23 เมษายน” พลเอกเดชา กล่าว
b88f5853-7889-469e-b309-75c33656e642
 “เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า สำหรับการคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ในประเภทลู่ สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) กำหนดให้ใช้คะแนนสะสมจากรายการสำคัญประกอบด้วย การแข่งขันเนชั่นส์คัพ ปี 2023 และ 2024, การแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ชิงแชมป์ทวีป ปี 2023 และ 2024 และการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์โลก 2024 ซึ่งในรายการเนชั่นส์คัพและชิงแชมป์โลก นักปั่นที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องมีคะแนนสะสมประเทศสูงเพียงพอในอันดับตามที่ยูซีไอกำหนดอีกด้วย ซึ่งถ้าจายมีผลการแข่งขันเนชั่นส์คัพ 2023 ทั้ง 3 สนาม รวมถึงจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่มาเลเซีย เป็นเจ้าภาพในเดือนมิถุนายน และจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์โลก 2024 ที่ประเทศสกอตแลนด์ ในเดือนสิงหาคม เป็นไปตามเป้าหมาย โอกาสที่จายจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักปั่นประเภทลู่คนแรกของไทยที่สามารถควอลิฟายเข้าสู่การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ก็จะสดใสมากยิ่งขึ้น
พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ก็จะส่งนักปั่นทีมชาติไทยประเภทถนนทีมชายชุดแรกเริ่มตระเวนแข่งขันประเดิมศักราช 2566 เพื่อเก็บคะแนนสะสมลุ้นโควต้าโอลิมปิกเกมส์ 2024 โดยเริ่มที่การแข่งขันจักรยานทางไกล “เจลาจาห์ มาเลเซีย” ซึ่งเป็นรายการแข่งขันระดับ 2.2 ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม ที่ประเทศมาเลเซีย โดยนักปั่นไทยจะลงในนามทีมจักรยานอาชีพ “ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง” ประกอบด้วย ส.ท.สราวุฒิ สิริรณชัย, พ.อ.ท.พีระพล ชาวเชียงขวาง, ส.ต.ธนาคาร ไชยาสมบัติ, ร.ต.อ.นวุติ ลี้พงษ์อยู่, จ.ต.รัชชานนท์ เยาวรัตน์ และ นายวรุฒม์ แปะกระโทก ต่อจากนั้นก็จะเป็นการแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ เดอ ไต้หวัน” ในระดับ 2.1 ระหว่างวันที่ 12-16 มีนาคม ที่ประเทศไต้หวัน แต่ส่งแข่งในนามทีมชาติไทย โดยใช้นักปั่นจากไทยแลนด์ คอนติเนนตัล เกือบทั้งทีม เปลี่ยนเฉพาะ จ.ส.ต.ณัฐพล จำชาติ เข้ามาแทน ร.ต.อ.นวุติ ลี้พงษ์อยู่ เท่านั้น
“หลังจากจบทัวร์ เดอ ไต้หวัน นักปั่นทีมชาติไทยและไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ก็จะเดินทางกลับเมืองไทยเพื่อเตรียมความพร้อมรับการแข่งขันจักรยานทางไกล ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023 เส้นทางจากภาคตะวันตกสู่ภาคตะวันออก จากจังหวัดกาญจนบุรี, สุพรรณบุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, จันทบุรี และระยอง ระหว่างวันที่ 1-6 เมษายน ขณะที่ทีมหญิงทั้งทีมอาชีพ ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง และทีมชาติไทย ก็จะลงแข่งขันจักรยานทางไกลสตรี วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023 เส้นทางภายในจังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน ต่อเนื่องกัน” นายกสองล้อไทย กล่าว
 พลเอกเดชา เปิดเผยอีกว่า จากโปรแกรมดังกล่าวของทีมนักปั่นชายและหญิงไทย น่าจะสามารถเก็บคะแนนสะสมเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ทีมชาติไทยอยู่ในอันดับ 47 ของโลกในประเภททีมชาย และอันดับ 28 ของโลกในประเภททีมหญิง จากอันดับโลกของไทยในปัจจุบัน ทีมหญิงมีโอกาสที่จะควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ 2024 จากคะแนนสะสมโลกสูงมาก เนื่องจากสหพันธ์จักรยานนานาชาติ หรือ ยูซีไอ กำหนดโควต้าควอลิฟายจากคะแนนสะสมไว้ที่ 45 อันดับแรกในคะแนนเนชั่น เวิลด์ แรงกิ้ง จะได้โควต้าแข่งขันปารีสเกมส์ทันที ในขณะที่ทีมชายปัจจุบันที่อยู่ในอันดับ 47 และมีคะแนนห่างจากแอลบาเนีย ที่อยู่อันดับ 45 เพียงแค่ 68 คะแนน โดยยังเหลือเวลาในการเก็บคะแนนสะสมจากการแข่งขันรายการนานาชาติไปจนถึงเดือนตุลาคม ซึ่งจะเป็นเดดไลน์ในการตัดโควต้าโอลิมปิกเกมส์ 2024
นอกจากนี้ พลเอกเดชา กล่าวเสริมว่า นอกเหนือจากลุ้นในอันดับคะแนนสะสมเวิลด์ แรงกิ้ง ดังกล่าวแล้ว นักปั่นทีมชาติไทยก็ยังมีโอกาสที่จะลุ้นโควต้าจากการที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่จังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 7-13 มิถุนายน 2566 ซึ่งทางยูซีไอกำหนดไว้ว่า นักปั่นทั้งในรุ่นประชาชนชายและหญิง ที่ได้อันดับ 1 และอันดับ 2 จากการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย จะได้โควตาโดยอัตโนมัติทันที ดังนั้นนักปั่นไทยต้องเตรียมร่างกายและการฝึกซ้อมให้ดีที่สุด เพราะโอกาสที่จะทำได้ก็มีสูง และขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทยโปรดส่งแรงใจมาเชียร์นักปั่นไทยทุกคนให้สามารถเก็บคะแนนสะสมได้ตามเป้าหมาย และคว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2024 มาให้ได้.